ถ้าบ้านคุณไม่มีเครื่องซักผ้า ซักเครื่องไม่ได้ แต่ก็อยากซักผ้าสกปรกเหม็นอับใจจะขาด หรือเสื้อผ้าบางชุดเป็นแบบซักมือเท่านั้น เพราะเนื้อผ้าบอบบางขาดง่าย ซักเครื่องไม่ได้ วันนี้คุณมาถูกที่แล้ว เพราะบทความนี้จะแนะนำวิธีการซักผ้าด้วยมือให้คุณเอง เริ่มจากเลือกน้ำยาซักผ้าที่ไม่แรงไปสำหรับเส้นใยผ้า จากนั้นใช้น้ำและน้ำยา ซักผ้าอย่างเบามือ ปิดท้ายด้วยการตากผ้าให้ถูกวิธี รับรองเสื้อผ้าไม่เสีย แถมหอมสะอาด
คุณกำลังดูโพสต์นี้ วิธีการ ซักผ้าด้วยมือ
เลือกน้ำยาซักผ้าที่เหมาะสม
สูตรถนอมผ้าสำหรับผ้าบางขาดง่าย
- น้ำยาสูตรถนอมผ้าใช้ได้กับผ้าแทบทุกชนิด ขอแค่ไม่ต้องดูแลเป็นพิเศษ อย่างผ้าไหม ผ้าลูกไม้ ผ้าขนสัตว์ หรือผ้าทอ
- เลือกน้ำยาซักผ้าที่เน้นถนอมผ้าบางขาดง่าย จะยี่ห้อไหนก็แล้วแต่ความชอบ
ไม่ใช้กับผ้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ
- ใช้น้ำยาซักผ้ายี่ห้อไหนก็ได้ ขอแค่เลือกที่ถนอมผ้า
- ใช้กับผ้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษอย่างผ้าไหม ผ้าลูกไม้ หรือผ้าขนสัตว์ไม่ได้
สูตรถนอมผิวสำหรับเด็กและผิวบอบบาง
- ใช้แชมพูเด็กหรือสบู่เหลวสูตรถนอมผิว
การทำความสะอาดแบบไม่ต้องล้างออก
- ลองใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบไม่ต้องล้างออกกับผ้าไหมและผ้าลูกไม้
- เสื้อผ้าชิ้นไหนทำจากผ้าบางขาดง่าย อย่างผ้าไหมและผ้าลูกไม้ ให้เลือกน้ำยาที่ไม่ต้องล้างออกหลังแช่ผ้าในน้ำแล้ว จะทำให้ทำความสะอาดผ้าไหมกับผ้าลูกไม้ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องกลัวผ้าเสียหายเพราะซักและล้างน้ำมากไป
การซักผ้าให้สะอาดและป้องกันสีตกให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- แยกผ้าสีอ่อนกับผ้าสีเข้มและซักแยกกัน เริ่มจากผ้าสีอ่อนที่สุดก่อนเสมอ และเก็บผ้าสีเข้มไว้ซักทีหลัง เพื่อป้องกันสีตกใส่กัน
- ซักแยกผ้าทีละตัว เพื่อป้องกันสีตกใส่กัน และแนะนำให้ใช้กะละมังในการซัก เพราะซักผ้าทีละชิ้นหรือหลายชิ้นได้สบายๆ
- เติมน้ำทั้ง 2 กะละมัง โดยใช้น้ำอุณหภูมิประมาณ 30 องศาเซลเซียส (85 องศาฟาเรนไฮต์) เพื่อให้ผ้าซักสะอาด แต่ถ้าน้ำร้อนเกินไปเสื้อผ้าจะสีตก และถ้าน้ำเย็นไปก็จะขจัดคราบได้ไม่ดี
- ถ้ากลัวซักแล้วเสื้อผ้าหด ให้ใช้น้ำเย็นทั้ง 2 กะละมัง เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าหดเพราะน้ำอุ่น
- ใส่น้ำยาซักผ้า 1 ช้อนชา (5 กรัม) ต่อผ้า 1 ชิ้นในกะละมังใบเดียวกัน และผสมให้ละลายไปกับน้ำ
- ซักผ้าในน้ำ โดยใช้มือแกว่งผ้าไปมาในน้ำ ขจัดสิ่งสกปรก และทำแบบนี้สัก 2-3 นาที หรือจนกว่าผ้าจะดูสะอาดและออกกลิ่น
- นำผ้าออกมาพักสักครู่ จากนั้นเหยาะผ้าให้ให้น้ำไห

วิธีการตากผ้าให้แห้งอย่างถูกต้อง
- ห้ามบิดผ้าให้แห้งเด็ดขาด – พยายามอย่าบิดผ้าเป็นเกลียวเพื่อไล่น้ำให้ผ้าแห้ง เพราะทำผ้ายืดย้วย เนื้อผ้าเสียได้
- ยกผ้าเหนือน้ำ – รอจนน้ำส่วนเกินไหลลงกะละมังไปหมด
- ปูผ้าราบ – ไปกับพื้นผิวสะอาดๆ ทิ้งไว้จนแห้ง
- ปูผ้าเปียกบนพื้นผิวสะอาดๆ – เช่น หน้าเคาน์เตอร์ หรือบนโต๊ะ พยายามรีดให้ผ้าเรียบไปกับพื้นผิวนั้น โดยที่คงรูปทรงที่เหมาะสมของผ้าชิ้นนั้น
- ตากผ้าแนวราบ – ตากกับราวหรือเชือกก็ได้ แต่ให้ตากแนวราบ อย่าห้อยในแนวดิ่งลงมา เพราะจะทำให้เสื้อผ้าเสียทรงได้
- กลับด้านผ้าให้แห้งทั่วกัน – รอสัก 2 – 4 ชั่วโมงจนผ้าด้านนั้นแห้ง แล้วค่อยกลับด้านผ้า ตากให้อีกด้านแห้งสนิทบ้าง ตากผ้าไว้ข้ามคืน ตอนเช้าค่อยมาเช็คว่าผ้าแห้งทั้ง 2 ด้านหรือยัง
เหตุผลที่ต้องการตากผ้าให้แห้งอย่างถูกต้อง
การตากผ้าให้แห้งอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผ้าไม่เสียหรือเสื่อมสภาพ เนื่อ
สิ่งของที่ใช้
อุปกรณ์
- น้ำยาสูตรถนอมผ้า หรือน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่ต้องล้างออก
- อ่างหรือกะละมังใหญ่ๆ 2 ใบ
- น้ำสะอาด
วิธีการ
- เตรียมอ่างหรือกะละมังใหญ่ๆ 2 ใบ
- เติมน้ำสะอาดลงในอ่างหรือกะละมัง
- ใส่น้ำยาสูตรถนอมผ้าหรือน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่ต้องล้างออกลงในอ่างหรือกะละมัง
- นำผ้าที่ต้องการผึ่งหรือตากใส่ในน้ำยาแล้วนวดผ้าเบาๆ เพื่อให้น้ำยาซึมผ่านไปทั่วผ้า
- นำผ้าขึ้นมาและให้น้ำยาเหลือในผ้าไว้เล็กน้อย
- นำผ้าไปตั้งบนพื้นผิวที่สะอาด และตากให้แห้ง