การตัดเล็บมือเล็บเท้าให้สั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ควรรู้จักเนื่องจากความยาวที่เกินไปอาจทำให้เกิดความแหลมคม ขรุขระ และเป็นอันตรายได้ อย่างไรก็ตามไม่ควรตัดเล็บมากเกินไป เพียงแค่ตัดเล็มให้เรียบร้อยทุก 2-3 สัปดาห์เพื่อให้เล็บงอกใหม่ได้ดี
เพื่อให้คุณสามารถดูแลเล็บอย่างเหมาะสม นี่คือเคล็ดลับและเทคนิคที่คุณควรรู้จัก:
ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนการตัดเล็บ
เพื่อให้เล็บของคุณตัดง่ายขึ้นและลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ มีขั้นตอนเตรียมตัวที่คุณควรทำก่อนการตัดเล็บดังนี้:
1. ล้างมือและเท้า
ให้ล้างมือและเท้าอย่างละเอียดก่อนการตัดเล็บ เพื่อล้างสิ่งสกปรกและเป็นมลพิษที่อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อได้
2. แช่เล็บ
แช่เล็บที่ต้องการตัดไว้สักครู่ก่อนการตัด เพื่อทำให้เนื้อเล็บนิ่มขึ้นและตัดง่ายขึ้น นี่จะเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากเมื่อตัดเล็บเท้า เนื่องจากเล็บเท้ามีความหนากว่าและตัดยากกว่าเล็บมือ
ข้อควรระวัง
หากเล็บมีลักษณะเปราะนิ่ม การตัดเล็บตอนที่เล็บยังเปียกอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้มากขึ้น จึงควรทำการตัดเล็บเมื่อเล็บแห้งแล้วเท่านั้น
3. เป่ามือและเท้าให้แห้ง
หลังล้างมือและเท้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เป่ามือและเท้าให้แห้งอย่างสมบูรณ์ การตัดเล็บเมื่อ มือหรือเท้ายังเปียกอาจทำให้กระทบต่อคุณภาพการตัดเล็บ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดเล็บ

ในการตัดเล็บคุณสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ตัดเล็บต่าง ๆ ได้ตามความต้องการของคุณ อุปกรณ์ที่คุณสามารถใช้ได้รวมถึง:
กรรไกรตัดเล็บ
กรรไกรตัดเล็บเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาถูก ใช้ง่ายและสามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังสามารถตัดเล็บให้เป็นแนวขอบโค้งได้ ซึ่งจะสะดวกมากหากขนาดเล็บของคุณเป็นพอดีกับรูปร่างกรรไกร อย่างไรก็ตาม ควรระวังเมื่อใช้กรรไกรตัดเล็บในกรณีที่โค้งของเล็บมีขนาดใหญ่หรือเล็กเกินไป
กรรไกรตัดหนังเล็บ
กรรไกรตัดหนังเล็บมีความแม่นยำในการตัดและเล็มเล็บได้อย่างละเอียด อุปกรณ์นี้อาจเป็นที่ชื่นชอบของบางคนเนื่องจากความสามารถในการตัดและเล็มเล็บที่แม่นยำกว่า อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องควบคุมการตัดแนวโค้งที่มากกว่าในกรณีของกรรไกรตัดหนังเล็บ
ข้อดีและข้อเสีย
กรรไกรตัดเล็บ: ราคาถูก, ใช้ง่าย, สามารถตัดเล็บให้เป็นแนวขอบ โค้งได้ อย่างไรก็ตาม อาจยุ่งยากในกรณีที่เล็กหรือใหญ่เกินไป
กรรไกรตัดหนังเล็บ: มีความแม่นยำในการตัดและเล็มเล็บ, ตัดแนวโค้งได้อย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ควรควบคุมการตัดแนวโค้งที่มากกว่า และต้องใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมเมื่อตัดเล็บเท้า
กรมสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐ (U.S. Department of Health and Human Services Health Resources and Services Administration) ได้แนะนำว่า ควรระวังเมื่อใช้อุปกรณ์ที่มีคม เช่น มีด, ใบมีดโกน, หรือกรรไกรทั่วไป ในการตัดเล็บ เนื่องจากอุปกรณ์อาจทำให้ผิวรอบเล็บบาดเจ็บได้ อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดเล็มเล็บควรสะอาดเสมอ
การดูแลเล็บให้สุขภาพดี
หากคุณต้องการเล็บที่สวยงามและสุขภาพดี ควรพิจารณาซื้อเซตอุปกรณ์ตัดเล็บสำหรับใช้เป็นของตนเอง เพื่อความสะอาดและปลอดภัย แนะนำให้แบ่งเซตตัดเล็บสำหรับมือและเท้าออกจากกัน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคระหว่างการใช้งาน
นอกจากนี้ ควรล้างทำความสะอาดเครื่องมือตัดเล็บอย่างสม่ำเสมอโดยใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค สามารถใช้น้ำยาล้างจานหรือสบู่ที่มีสารต้านเชื้อแบคทีเรียเป็นตัวเลือกแทนได้ โดยแช่อุปกรณ์ตัดเล็บในชามน้ำร้อนหรือในน้ำสบู่เป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งนาที
การจัดการเศษเล็บที่ตัด
เมื่อตัดเล็บแล้ว เศษเล็บอาจหล่นบนพื้น ควรนำเศษเล็บไปทิ้งในถังขยะ หรือเก็บเศษเล็บไว้ในที่รองรับและพับที่ตัดเล็บที่มีรูปทรงเหมือนกัมดัมแมลง เพื่อให้เศษเล็บไม่กระจายไปทั่ว
อย่าลืมเลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการตัดเล็บ เช่น ห้องน้ำหรือที่ส่ วนตัว และหลีกเลี่ยงการตัดเล็บใกล้ผู้คนที่กำลังพูดคุยกัน เพื่อป้องกันการกระจายเศษเล็บไปยังผู้อื่น
เล็บเสียหายและการนำไปใช้ประโยชน์
ถึงแม้ว่าเศษเล็บมือและเท้าจะไม่มีจำนวนมากเพียงพอที่จะนำไปเป็นปุ๋ยหมัก แต่ก็เป็นวัตถุอินทรียวัตถุที่สามารถย่อยสลายได้ คุณสามารถนำเศษเล็บไปเป็นปุ๋ยหมักได้ ซึ่งจะมีประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพของดิน
อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการใช้เศษเล็บที่ทาสีหรือเล็บปลอม (อะคริลิค) เป็นวัสดุสังเคราะห์ เนื่องจากวัสดุเหล่านี้ไม่สามารถย่อยสลายได้
ข้อควรระวังคือ เล็บที่ทาสีมากๆ อาจมีส่วนผสมของสารเคมีที่ไม่เหมาะสมต่อการนำไปใช้งานเช่นกัน ดังนั้น ควรตัดเล็บด้วยความระมัดระวังเพื่อให้เล็บของคุณสุขภาพและสวยงามตลอดเวลา
แหล่งข้อมูลอ้างอิง: คำนึงถึงบริเวณที่จะตัดเล็บ
การตัดเล็บมือ
เมื่อต้องการตัดเล็บมือโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนเล็บจึงจะขึ้นเต็ม ดังนั้นควรประเมินระยะเวลาและบริโภคอย่างเหมาะสมในการตัดเล็บบ่อยๆ อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการตัดบ่อยเกินไปอาจทำให้เล็บขบและเจ็บได้ หากคุณเริ่มมีอาการเจ็บบริเวณขอบเล็บควรตัดบริเวณที่เจ็บก่อนที่จะงอกลึกลงไป แต่วิธีที่ดีคือควรไปให้ผู้ที่ชำนาญด้านนี้ดูแลและตัดเล็บให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการเกิดอาการเจ็บ การตัดเล็บให้เป็นแนวตรงและเล็มโค้งเพียงเล็กน้อยจะช่วยลดโอกาสการเกิดเล็บขบได้ (แหล่งข้อมูลอ้างอิง: American Academy of Dermatology)
วิธีการตัดเล็บมือ
- 1. เริ่มต้นโดยการตัดเล็บส่วนที่เกินขอบนิ้วออกมา ซึ่งเป็นส่วนที่มีสีมัวๆ แล้วตัดออกให้เกือบเป็นแนวตรง
- 2. เล็มโค้งตรงมุมเล็กน้อยเพื่อให้เล็บไม่ฉีกง่าย
- 3. ตัดเล็บให้เป็นแนวตรงเพื่อลดโอกาสการเกิดเล็บขบ
การตัดเล็บเท้า
การตัดเล็บ เท้าเหมือนกับการตัดเล็บมือ แต่เน้นให้เล็บเท้าไม่เกินไปและควรใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม เล็บเท้าอาจมีความหนากว่าเล็บมือ และการตัดเล็บเท้าเข้ามุมอาจทำให้เกิดปัญหาในผู้ป่วยเบาหวานได้ ดังนั้นควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้:
- 1. ตัดเล็บเท้าโดยเริ่มต้นจากตัดเล็บส่วนที่เกินขอบออกภายนอก แล้วตัดออกทีละน้อย
- 2. ไม่ควรตัดส่วนที่เลยขอบทั้งหมดในครั้งเดียว เพราะเล็บเท้ามีรูปทรงรีเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว
- 3. ตัดเล็บให้เป็นแนวตรงเพื่อให้เล็บไม่ฉีกง่ายและลดโอกาสการเกิดเล็บขบ
ในกรณีที่คุณเล่นกีตาร์ ควรประกอบด้วยเล็บมือที่ต้องดีดกีตาร์ให้ยาวขึ้นอย่างน้อย 1/16 นิ้ว (1.5 ถึง 2 มิลลิเมตร) ในแต่ละนิ้วที่ใช้ดีดกีตาร์ ควรตัดเล็บออกทีละน้อย เพื่อป้องกันการทำลายเล็บที่ไม่จำเป็น อย่าลืมระวังการตัดเล็บเท้าในผู้ป่วยเบาหวานเนื่องจากอาจเกิดปัญหาได้ นอกจากนี้ยังควรเลี่ยงการใช้เซ็ตตัดเล็บที่ใช้ร่วมกับเล็บมือเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แบคทีเรียระหว่างเท้าและมือ
ในทุกกรณีควรระมัดระวังในการตัดเล็บไม่ให้มากเกินไป
การตัดเล็บอย่างถูกต้อง
เพื่อความสะดวก ความสวยงาม และป้องกันการติดเชื้อ การตัดเล็บอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรใส่ใจ
ควรตัดเล็บอย่างไร?
คุณควรตัดเล็บออกเรื่อยๆ จนไม่เหลือ “ส่วนขาวๆ ที่ยาวเกินเนื้อออกมา” เพื่อให้เล็บมีความสวยงามและสะอาด อย่างไรก็ตาม หากตัดเข้าลึกเกินไป อาจทำให้เนื้อบางๆ ใต้เล็บโผล่ขึ้นมาและเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ระดับที่ควรตัด
ควรตัดเล็บออกให้เสมอกับปลายสูงสุดของนิ้วมือ หรือถ้าคุณต้องการตัดออกทั้งหมด ให้เหลือเพียงส่วนขาวๆ ที่ยาวเกินขอบบนของนิ้วมือออกมาเท่านั้น
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
อ้างอิง: [ชื่อแหล่งข้อมูล]
ตะไบเล็บ: การตัดและการตะไบเล็บที่ถูกต้อง
ตะไบเล็บเป็นกระบวนการหลังจากการตัดเล็บเสร็จสิ้น แม้ว่าคุณอาจจะไม่จำเป็นต้องตะไบเล็บก็ได้ แต่การตะไบเล็บมีประโยชน์มาก เพราะจะช่วยให้เล็บของคุณดูเป็นรูปทรงตามที่คุณต้องการ
ประโยชน์ของการตะไบเล็บ
การตัดเล็บอย่างเดียวจะทำให้เหลือขอบเล็บที่ขรุขระอยู่ เพื่อให้เล็บดูเรียบร้อย แต่ถ้าคุณต้องการเล็บที่คมขรุขระเพื่อป้องกันการข่วนเสื้อผ้าหรือของที่อยู่ใกล้เล็บ เช่น ถุงเท้าหรือถุงน่อง คุณควรที่จะตะไบเล็บด้วยอุปกรณ์ตะไบเล็บ เช่น ตะไบเล็บ, หินพัมมิส หรือวัสดุแข็งอื่น ๆ ที่มีพื้นผิวขรุขระ
ขั้นตอนการตะไบเล็บที่ถูกต้อง
เพื่อให้การตะไบเล็บมีประสิทธิภาพและป้องกันการฉีกขาดหรือเสียหาย คุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:
1. รอให้เล็บแห้ง
เมื่อตัดหรือตะไบเล็บเสร็จ รอให้เล็บแห้งและไม่นิ่มไปกว่าเดิม การตะไบเล็บขณะเล็บยังเปีย กจะทำให้เล็บไม่เรียบเนียนเมื่อแห้ง และอาจทำให้เกิดการฉีกหรือเปราะหักได้
2. ใช้ตะไบเล็บอย่างถูกต้อง
ใช้ตะไบเล็บในทิศทางแนวยาวแนวเดียว เริ่มจากขอบไปหากึ่งกลางเล็บ แล้วใช้ด้านขรุขระตะไบก่อนหากต้องการเอาเล็บออกเพิ่ม หลังจากนั้นใช้ด้านละเอียดตะไบซ้ำให้ขอบเรียบเนียน รูปทรงของเล็บที่ได้ควรเป็นทรงสามเหลี่ยมเล็กน้อยหรือโค้งมน แต่ต้องไม่แหลมชี้ เพื่อไม่ให้เล็บหักเสียหาย
3. ตรวจสอบความเรียบร้อย
หลังจากตัดหรือตะไบเล็บให้ตรวจสอบเล็บให้ดีว่าแต่ละเล็บมีความยาวและรูปทรงเหมือนกัน ตรวจสอบให้ดีว่าเล็บเรียบเนียนดี เพราะเล็บที่ขรุขระหรือแหลมชี้อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บและไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันได้
ด้วยขั้นตอนการตะไบเล็บที่ถูกต้องนี้ คุณสามารถดูแลเล็บของคุณให้สวยงามและแข็งแรงได้อย่างถูกวิธี
คุณกำลังดูโพสต์นี้ วิธีการ ตัดเล็บมือเล็บเท้า
เคล็ดลับในการบำรุงเล็บให้เรียบเนียน

เพื่อให้เล็บของคุณดูเรียบเนียนและสวยงามในทุกๆ เย็น คุณสามารถใช้เคล็ดลับต่อไปนี้:
บำรุงเล็บด้วยน้ำมันหรือครีมบำรุงเล็บ เลือกใช้น้ำมันบำรุงเล็บหรือครีมบำรุงเล็บที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นภายในเล็บ ป้องกันไม่ให้เล็บเปราะบิ่นและฉีกขาด คุณสามารถเลือกใช้น้ำมันบำรุงเล็บที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกเพื่อผลลัพธ์ที่ดี อีกทั้งควรขัดเล็บเพื่อให้ดูเงางาม และนวดด้วยครีมสำหรับเคลือบผิวเล็บเพื่อให้กักเก็บน้ำมันเคลือบผิวเล็บและช่วยให้เล็บชุ่มชื้น
ใช้กรรไกรตัดเล็บแบบพิเศษสำหรับเล็บเท้า กรรไกรตัดเล็บแบบพิเศษสำหรับเล็บเท้าจะช่วยลดการเกิดเล็บขบได้ เนื่องจากมีแนวตรง เป็นต้นแบบที่ดีในการตัดเล็บเท้า หากใช้กรรไกรตัดเล็บปกติ อาจมีแนวโค้งเล็กน้อยทำให้เกิดเล็บขบได้
สวมถุงมือยางขณะล้างจาน การโดนน้ำอาจทำให้เล็บนิ่มลงง่าย หากเล็บยังเปียกและนิ่ม ควรระมัดระวังให้ดีจนกว่าเล็บจะแห้งสนิท เพื่อป้องกันเล็บไม่แตก
ทาสีที่โคนเล็บและทาเล็บใต้ต่อปลายสุดของเล็บ หากเล็บของคุณอ่อนแอมาก ลองทาสีที่โคนเล็บและทาเล็บใต้ต่อปลายสุดของเล็บ เพื่อให้เล็บแข็งแรงทนทานขึ้น
ทำความสะอาดเนื้อใต้เล็บด้วยมุมผ้าก๊อซ ใช้มุมผ้าก๊อซที่นุ่มกว่าแปรงขัดเล็บเพื่อทำความสะอาดเนื้อใต้เล็บ การใช้มุมผ้าก๊อซจะช่วยลดการระคายเคืองของเนื้อบางๆ ที่อยู่ใต้เล็บ ระมัดระวังให้ล้างออกก่อนเนื่องจากสิ่งสกปรกที่อยู่ใต้เล็บอาจเกิดขึ้นขณะทำสวนหรือกิจกรรมอื่นๆ
ล้างเล็บด้วยสบู่ก้อน เมื่อล้างมือให้ใช้สบู่ก้อนล้างเล็บด้วย เนื่องจากสบู่จะช่วยทำความสะอาดเนื้อใต้เล็บโดยตรง ทำให้สิ่งสกปรกไม่เข้าไปฝังอยู่ใต้เล็บ
ใช้ครีมบำรุงมือ ทุกครั้งหลังล้างมือให้ใช้ครีมบำรุงมือ เนื้อครีมจะช ่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับเล็บ ช่วยให้เล็บแข็งแรงและสวยงาม
ใช้สเปรย์น้ำมันบำรุงเล็บหลังตัดเล็บ หากคุณทาเล็บหลังจากตัดเล็บให้ใช้สเปรย์น้ำมันบำรุงเล็บพ่นทับ เพื่อให้เล็บดูเงางามและทำให้น้ำยาทาเล็บแห้งได้ทันที ความยาวเล็บมือที่เหมาะสม ความยาวเล็บที่เหมาะสมที่สุดคือยาวเลยปลายนิ้วมือเล็กน้อย
คำแนะนำในการตัดเล็บอย่างถูกต้อง
การตัดเล็บต้องระมัดระวังเพื่อป้องกันอันตรายและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น นี่คือคำแนะนำสำหรับการตัดเล็บอย่างถูกต้อง:
ตรวจสอบความปลอดภัย
ก่อนที่คุณจะตัดเล็บ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการตัดเข้าเนื้อหรือตัดเล็บสั้นเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายและการเลือดออก ควรหลีกเลี่ยงการตัดเล็มในส่วนที่ยาวออกมากเกินไป เนื่องจากส่วนนี้สามารถเป็นที่อาศัยของเชื้อโรคได้
ป้องกันการติดเชื้อ
ห้ามกัดเล็บ เนื่องจากการกัดเล็บอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บและการแผลเป็นที่อาศัยของเชื้อโรค ดังนั้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่เล็บ
ความสะอาดของอุปกรณ์
ก่อนที่จะเริ่มต้นตัดเล็บในขั้นตอนแต่ละขั้นตอน ควรทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ตัดเล็บ โดยแช่ในน้ำร้อนที่ผสมสบู่ไว้สัก นาที เพื่อกำจัดเชื้อโรคและความสกปรก
หวังว่าบทความนี้จะเป็นที่ชัดเจนและจะได้รับข้อมูลที่จำเป็นในการดูแลเล็บมือและเท้าของคุณให้เหมาะสม