บทความนี้จะแนะนำวิธีการใช้ macOS High Sierra ในเครื่อง Windows โดยดาวน์โหลดแอพชื่อ Unibeast มาก่อน และต้องใช้ Mac กับ Windows ที่รองรับการใช้งานแบบนี้ด้วย สุดท้ายคือฮาร์ดไดรฟ์เปล่า
วิธีการใช้ macOS High Sierra ในเครื่อง Windows ได้โดยใช้โปรแกรม Unibeast ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีผ่านทางอินเทอร์เน็ต ก่อนอื่นต้องมี Mac และ Windows ที่รองรับการใช้งานแบบนี้ด้วย
ขั้นตอนแรกให้ดาวน์โหลด Unibeast จากที่นี่ https://www.tonymacx86.com/resources/categories/tonymacx86-downloads.3/ และทำการติดตั้ง
ขั้นตอนต่อมาคือการสร้าง USB Installer ของ macOS High Sierra โดยเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมกับเครื่อง PC ที่ใช้งานอยู่ หลังจากนั้นทำการติดตั้ง macOS High Sierra บนเครื่อง PC และกำหนดให้เป็นฮาร์ดไดรฟ์เปล่า
ด้วยวิธีการดังกล่าวจะทำให้เราสามารถใช้งาน macOS High Sierra บนเครื่อง PC ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
คุณกำลังดูโพสต์นี้ วิธีการ ติดตั้ง macOS ในคอมพิวเตอร์ Windows
เตรียมตัวก่อนติดตั้ง
เช็คสเปคคอมพิวเตอร์ Windows
- ต้องใช้ Intel processor i5 หรือ i7 ถึงจะใช้ macOS High Sierra ได้
- ต้องมี RAM อย่างน้อย 2 GB
- เช็คประเภท BIOS ของคอม. ข้างหัวข้อ “BIOS Mode” ในเมนู System Information ให้มองหา “UEFI” หรือ “BIOS” แล้วจำหรือจดไว้ก่อน
- เช็ค bit ของคอม. คอมของคุณต้องเป็น 64-bit ถึงจะติดตั้ง macOS ได้
ต้องมีหรือขอใช้ Mac รุ่นใหม่ๆ ของใครได้
- ต้องดาวน์โหลด macOS High Sierra ได้
- ต้องเป็นเครื่อง Mac รุ่นที่ใช้ macOS High Sierra ได้เท่านั้น

รวบรวมอุปกรณ์ที่จำเป็น
- ไดรฟ์ USB – เลือกแฟลชไดรฟ์ที่ใส่ข้อมูลได้ 16 GB
- ฮาร์ดไดรฟ์ว่าง – เลือก USB external hard drive ที่ใส่ข้อมูลได้อย่างน้อย 100 GB (ใช้ติดตั้งไฟล์ต่างๆ ของ macOS เพราะงั้นยิ่งพื้นที่เยอะก็ยิ่งดี)
- USB-C adapter – ถ้าใช้ Mac ที่ไม่มีพอร์ท USB แบบเก่า ก็ต้องใช้ adapter แบบแปลง USB-C เป็น USB-3.0
ดาวน์โหลด Unibeast
เข้าเว็บดาวน์โหลด Unibeast ใน Mac
- ไปที่ https://www.tonymacx86.com
- คลิก Log in or Register ที่ด้านขวาบนของหน้า แล้วเมนูจะโผล่มาที่ด้านบนของหน้า
- พิมพ์อีเมลในช่อง “Email address” ต้องเป็นอีเมลที่ใช้งานอยู่จริงๆ เพื่อล็อกอินไป verify หรือยืนยันความถูกต้องทีหลัง
- ติ๊กช่อง “No, create an account now” ทางด้านล่างของเมนู
- คลิก Sign up เพื่อไปยังหน้า Create an Account
- กรอกรายละเอียดต่างๆ ในช่องต่อไปนี้:
- Name — พิมพ์ชื่อที่จะใช้กับบัญชี
- Password — พิมพ์รหัสผ่านที่จะใช้ตอนล็อกอิน
- Confirm Password — พิมพ์รหัสผ่านด้านบนซ้ำเพื่อยืนยัน
- Date of Birth — ใส่วันเดือนปีเกิด
- Location — พิมพ์ชื่อประเทศ
- ติ๊กช่อง “I agree to the terms and rules” ทางด้านล่างของหน้า
- คลิก Sign up เป็นปุ่มที่อยู่ท้ายหน้า เพื่อสร้างบัญชีแล้วส่งอีเมลยืนยันไปยังอีเมลที่ระบุ
- ไปที่ inbox ของอีเมล แล้วล็อกอินเข้า inbox ด้วยอีเมลและรหัสผ่าน
ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง macOS High Sierra
- เปิด App Store ของ Mac. คลิกไอคอน App Store ที่เป็นสีฟ้า มีตัว “A” สีขาวด้านบน อยู่ใน Dock ของ Mac
- คลิกแถบค้นหา. ที่ด้านขวาบนของหน้าต่าง App Store
- ค้นหา High Sierra. พิมพ์ high sierra ในแถบค้นหา แล้วกด ⏎ Return
- คลิก Download. ทางขวาของไอคอน High Sierra เพื่อเริ่มดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งลง Mac
- รอจนหน้าต่างติดตั้งเปิดขึ้นมา. พอเปิดขึ้นมาแล้วให้รีบปิดทันที
- กด ⌘ Command+Q ตอนที่หน้าต่างเปิดขึ้นมา. เพื่อปิดหน้าต่างติดตั้ง
- เปิด Finder. คลิกไอคอนรูปหน้าสีฟ้า ใน Dock ของ Mac
- คลิกโฟลเดอร์ Applications. ทางซ้ายของหน้าต่าง Finder
- เช็คว่ามีไฟล์ติดตั้งในนั้น. ไฟล์ติดตั้งจะชื่อ “Install macOS High Sierra” หรืออื่นๆ ที่ใกล้เคียง และจะมีรูปเทือกเขาด้านบน ถ้าไฟล์ติดตั้งอยู่ในโฟลเดอร์ Applications แล้วก็ไปต่อได้เลย
- ถ้าไม่เจอไฟล์ติดตั้ง ให้ลองดาวน์โหลด High Sierra อีกรอบ
ฟอร์แมตไดรฟ์ USB
- เสียบไดรฟ์ USB ที่เครื่อง Mac. จะติดตั้ง macOS High Sierra ในคอม ต้องใช้แฟลชไดรฟ์ 16 GB ขึ้นไป
- ถ้า Mac ไม่มีพอร์ท USB ตามปกติ ให้ใช้ adapter แบบแปลง USB-C เป็น USB-3.0
- เปิด Spotlight. คลิกไอคอนรูปแว่นขยายที่มุมขวาบนของหน้าจอ เพื่อเปิดแถบค้นหา
- พิมพ์ disk utility ใน Spotlight. เพื่อค้นหาแอพ Disk Utility ใน Mac
- คลิก Disk Utility. ล่างแถบค้นหาของ Spotlight เพื่อเปิด Disk Utility
- เลือกไดรฟ์ USB. คลิกชื่อไดรฟ์ USB ที่ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง
- คลิก tab Erase. ที่ด้านบนของหน้าต่าง แล้วจะมีช่อง pop-up โผล่ขึ้นมา
- คลิกช่อง “Format” ให้ขยายลงมา. ปกติจะอยู่กลางช่อง pop-up คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมา
- คลิก OS X Extended (Journaled). เพื่อกำหนด file system ของไดรฟ์ USB เป็นของ Mac
- คลิกช่อง “Scheme” ให้ขยายลงมา. จะอยู่ล่างช่อง “Format” ที่ขยายลงมา
- คลิก GUID Partition Map. เป็นตัวเลือกในเมนู “Format” ที่ขยายลงมา
- คลิก Erase. เพื่อฟอร์แมตไดรฟ์ USB ใหม่ ไปใช้ file system ของ Mac
- คลิก Done ตอนที่ขึ้น. เสร็จแล้วก็ไปสร้างไดรฟ์ติดตั้งได้เลย
วิธีทำอุปกรณ์ติดตั้ง Unibeast
เตรียมอุปกรณ์
- เสียบไดรฟ์ USB ที่มีขนาด 16 GB ขึ้นไปกับเครื่อง Mac
- ถ้า Mac ไม่มีพอร์ท USB ให้ใช้ adapter แบบแปลง USB-C เป็น USB-3.0
ติดตั้ง Unibeast
- ดับเบิลคลิกโฟลเดอร์ Unibeast เพื่อ unzip และเปิด
- ดับเบิลคลิกไฟล์ PKG ของ Unibeast เพื่อเปิด
- คลิก “Open” เพื่อเปิดหน้าต่างติดตั้ง Unibeast
- ถ้า Mac ใช้ macOS Sierra หรือใหม่กว่า ต้อง verify หรือยืนยันการติดตั้ง Unibeast ก่อน
- คลิก “Continue” 4 ครั้งที่มุมขวาล่างของ 4 หน้าแรกของหน้าต่างติดตั้ง Unibeast
- คลิก “Agree” ที่มุมด้านบนของหน้าต่าง
- เลือกชื่อไดรฟ์ USB แล้วคลิก “Continue”
- เลือก “High Sierra” และคลิก “Continue”
- เลือกชนิดเมนบอร์ด (UEFI หรือ BIOS) และคลิก “Continue”
- ถ้าจำเป็นให้เลือกการ์ดจอ และตั้งค่าให้เหมาะสม หรือข้ามขั้นตอนนี้ไปได้
- ใส่รหัสผ่านของ Mac และคลิก “OK”
- Unibeast จะเริ่มติดตั้งลงไดรฟ์ USB
เมื่อติดตั้ง Unibeast เสร็จแล้ว ให้ไปเปลี่ยนลำดับการบูทของ Windows
เปลี่ยนลำดับการบูทของ Windows
- ถอดทุกอุปกรณ์ USB ที่เสียบอยู่กับ Windows โดยเฉพาะอย่าเสียบไดรฟ์ USB ไว้
- เข้าหน้า settings ของ BIOS หรือ UEFI ของคอม
- ปกติคือให้รีสตาร์ทคอมแล้วกดปุ่มรัวๆ (เช่น ปุ่ม Del) ทันทีหลังคอมติด
- หาหัวข้อ “Boot Order” โดยปกติจะอยู่ในหน้าหลักของ BIOS
- ถ้าหาหน้า “Boot Order” ของ BIOS ไม่เจอ ให้อ่านคู่มือเมนบอร์ด หรือเอารุ่นคอมไปค้นในเน็ต เพื่อดูหน้า BIOS ของรุ่นนั้นโดยเฉพาะ
- เลือก Removable Devices
- ใช้ปุ่มลูกศรขยับแถบกะพริบไปที่ Removable Devices
- บางเวอร์ชั่น หัวข้อนี้จะเป็น USB Devices หรืออะไรที่ใกล้เคียง (เช่น Peripherals)
- ขยับตัวเลือกที่ต้องการไปไว้บนสุดของรายการ
- ปกติคือให้กดปุ่ม + โดยที่เลือก boot location หรืออุปกรณ์ที่ใช้บูทเครื่องไว้ จนตัวเลือกขึ้นมาอยู่ด้านบนสุดของรายชื่อ “Boot Order”
- ต้องกดปุ่มไหน เช็คได้ที่ legend ทางขวา ท้ายหน้า BIOS
- เซฟ settings แล้วออกจาก BIOS
- มองหาปุ่มที่ต้องกดถ้าจะเซฟแล้วออก ใน legend ทางขวาของหน้า
วิธีการติดตั้ง macOS ใน PC
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมไฟล์ต่างๆ
- ใส่ Multibeast ในไดรฟ์ USB
- เปิดโฟลเดอร์ของไดรฟ์ USB แล้วลากไฟล์ Multibeast ไปใส่ในโฟลเดอร์
- Eject ไดรฟ์ USB ที่มี Unibeast จาก Mac โดยคลิกไอคอน ⏏ Eject ทางขวาของชื่อไดรฟ์ USB ที่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง Finder จากนั้นถอดไดรฟ์ USB
ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้ง macOS ใน PC
- เสียบทั้งไดรฟ์ USB ที่มี Unibeast และฮาร์ดไดรฟ์ว่างเข้ากับพอร์ท USB ของคอม
- เปิดเครื่อง Windows แล้วกดปุ่ม Power เพื่อเปิดคอม พอคอมเริ่มบูทเครื่องแล้ว ก็จะเลือกบูทจากไดรฟ์ USB ที่เสียบไว้
- เลือกไดรฟ์ USB ตอนที่ขึ้น แล้วกด ↵ Enter เพื่อเริ่มติดตั้ง macOS
- เลือกภาษา แล้วคลิก → เพื่อไปยังหน้าติดตั้งหน้าถัดไป
- คลิก Continue 2 รอบ จะอยู่ที่มุมขวาล่างของหน้า
- คลิก Agree ตอนที่ขึ้น จะอยู่ทางด้านบนของหน้าจอ
- คลิกเมนู Utilities ที่ด้านซ้ายบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา
- คลิก Disk Utility ในเมนูที่ขยายลงมา
วิธีเปิดใช้ Multibeast กับไดรฟ์ต่างๆ

เปิดแฟลชไดรฟ์
- เปิด Finder แล้วคลิกชื่อแฟลชไดรฟ์ที่ใช้ติดตั้ง macOS High Sierra เพื่อเปิดหน้าต่างของแฟลชไดรฟ์ใน Finder
ใช้ Multibeast
- ดับเบิลคลิกไฟล์ Multibeast เพื่อเปิดหน้าต่าง Multibeast
- คลิก tab Bootloaders และเลือก bootloader ที่เหมาะสม
- คลิก tab Drivers และเลือก audio drivers, FakeSMC, และ Internet driver
- คลิก tab Customize และเลือกตัวเลือก graphics ที่เหมาะสม
- คลิก System Definitions และเลือก Mac ที่ใกล้เคียงกับเครื่องคุณที่สุด
- คลิก tab Build และเลือกไดรฟ์ macOS ที่ต้องการติดตั้งไดรฟ์เวอร์
- คลิก Install และติดตั้งไดรฟ์เวอร์
- พิมพ์รหัสผ่าน Mac และคลิก Install Helper เพื่อเริ่มติดตั้ง