มีช่วงเวลาที่คุณอาจพบว่าควรเปลี่ยนแปลงสิ่งใดสิ่งหนึ่งในชีวิตของคุณ เช่น เริ่มต้นเส้นทางอาชีพใหม่หรือมองหาความท้าทายใหม่ เมื่อคุณตัดสินใจที่จะลาออกจากงานปัจจุบัน คุณอาจทำตามขั้นตอนง่ายๆ โดยการยื่นใบลาออก คุณอาจยื่นใบลาล่วงหน้าเพื่อความสะดวกสบาย
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการที่จะให้กระบวนการลาออกเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีผลกระทบต่อโอกาสในอนาคตที่เกี่ยวกับงาน คุณควรใช้ความระมัดระวังและรอบคอบในขั้นตอนดังกล่าว เพราะว่าการลาออกอาจเป็นเรื่องง่าย แต่การที่จะออกจากงานอย่างสง่างามและเป็นธรรมชาตินั้นอาจไม่ง่ายเช่นกัน
บทความนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อช่วยแนะนำวิธีการลาออกอย่างราบรื่นและไร้ความกังวลให้กับคุณ ให้คุณสามารถเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและมั่นใจ
ลาออกในเวลาที่เหมาะสม
เมื่อคุณต้องการลาออกจากงานปัจจุบันของคุณ ควรพิจารณาเวลาที่เหมาะสมในการลาออก เลือกลาออกในขณะที่สถานการณ์ยังราบรื่น และท่านจะรู้สึกหมดเรี่ยวแรง หรือไม่สามารถรับภาระงานต่อไปได้อีกต่อไป การลาออกในช่วงเวลาที่คุณรู้สึกมีความเครียดจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของคุณที่ลดลง
การลาออกอย่างมีสติ
ในกรณีที่คุณตัดสินใจลาออก คุณควรที่จะเก็บเรี่ยวแรงไว้ทิ้งทวนทำงานชิ้นสุดท้ายให้เจ๋งเป้งที่สุด เพราะอนาคตอาจจะมีการใช้จดหมายอ้างอิงการทำงานจากเจ้านายหรือโอกาสที่จะกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ฉะนั้น คุณควรเตรียมรับผลตอบแทนที่เกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณถูกเลิกจ้าง คุณควรจะได้รับเงินชดเชยหรือวิธีการอื่นๆ ที่สามารถช่วยให้คุณหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ ซึ่งจะมีประโยชน์ในกรณีที่คุณยังไม่ได้หางานใหม่มาเตรียมไว้
แจ้งลาออกล่วงหน้า
ในกรณีที่ คุณต้องการลาออกอย่างเหมาะสมที่สุด คุณควรปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อให้เจ้านายของคุณมีเวลาในการจัดการสถานการณ์ คุณควรแจ้งลาออกล่วงหน้าอย่างน้อยสองสัปดาห์ (หรือตามระยะเวลาขั้นต่ำตามข้อตกลงก่อนเริ่มงาน) เพื่อให้เจ้านายของคุณมีเวลาในการหาคนมาแทนคุณหรือหาวิธีแก้ขัดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนคุณลาออก ถึงแม้ว่าสัญญาจะไม่ได้กำหนดระยะเวลาขั้นต่ำเอาไว้ แต่คุณควรแจ้งลาออกล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เพื่อแสดงความเอาใจใส่และแสดงความเคารพต่อเจ้านายของคุณ
หากคุณลาออกโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าหรือยื่นใบลา อาจทำให้เจ้านายไม่สามารถหาคนมาแทนคุณทันเวลา และหากคุณแจ้งลาออกล่วงหน้าช้ากว่า อาจทำให้เจ้านายสงสัยว่าทำไมคุณยังมาป่วนเปี้ยนในออฟฟิศอยู่อีก ดังนั้น การวางแผนและแจ้งลาออกล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรทำ
วิธีลาออกอย่างมีระเบียบ
หลังจากคุณตัดสินใจว่าจะลาออกแน่แล้ว คุณควรพิจารณาแผนการลาออกอย่างรอบคอบ โดยไม่ต้องประกาศให้ทุกคนในออฟฟิศทราบทันที อย่าให้ความรู้นี้เข้าถึงหัวหน้างานโดยตรงเพื่อให้เวลาให้พวกเขาพิจารณาและพิจารณาการยื่นข้อเสนอพิเศษให้คุณอยู่ ด้วยความระมัดระวัง สามารถส่งอีเมลหรือทางอื่นๆ เพื่อแจ้งให้คนอื่นในออฟฟิศทราบได้

เตรียมการลาออก
ก่อนที่คุณจะประกาศลาออกให้ทุกคนทราบ คุณควรเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับการส่งงานต่อ นอกจากนี้คุณยังควรจัดทำคู่มือเพื่อส่งต่อให้กับผู้ที่จะมาแทนที่ตำแหน่งงานของคุณ คู่มือนี้ควรประกอบไปด้วยข้อมูลที่สำคัญและไฟล์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องเก็บไว้ ทั้งนี้ในกรณีที่งานที่คุณทำเป็นงานระยะยาวต่อเนื่อง คุณควรจัดเก็บข้อมูลตามลำดับและป้ายชื่อเพื่อความสะดวกสบายในการค้นหา
การแจ้งทีมงาน
หลังจากที่คุณได้แจ้งหรือยื่นใบ ลาออกล่วงหน้าสองสัปดาห์แล้ว คุณควรนัดแนะกับทีมงานของคุณเกี่ยวกับการหาคนมาสืบทอดหรือมอบหมายงานให้ต่อไป
การลาออกเป็นเรื่องสำคัญและควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยให้เวลาแก่ทั้งคุณและทีมงานของคุณในการปรับตัวและดำเนินงานต่อไปอย่างมีระเบียบและมีความเป็นระเบียบ การทำเช่นนี้จะช่วยให้เพื่อนร่วมงานและหัวหน้าของคุณมีความเข้าใจและเตรียมตัวใจกับสถานการณ์นี้ได้อย่างเหมาะสม
เพื่อป้องกันความไม่สะดวกในการดำเนินงาน คุณควรจัดเก็บไฟล์และข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้ในที่ที่สะดวกต่อการค้นหา และควรจัดเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสายโทรศัพท์หรือการติดต่ออื่นๆ จากพนักงานใหม่ที่อาจจะต้องการข้อมูลที่คุณเก็บไว้
อย่าลืมว่าการลาออกอย่างมีระเบียบเป็นการแสดงความเคารพและมีวุฒิภาวะ ดังนั้น คุณควรทำงานที่ค้างอยู่ให้เรียบร้อยและจัดทำคู่มือเพื่อส่งต่อให้กับผู้ที่จะมาแทนที่ตำแหน่งงานของคุณ
การเขียนจดหมายลาออกอย่างเป็นทางการและมีความเคารพ
การเขียนจดหมายลาออกเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเนื่องจากจะส่งผลต่อความเคารพและความรับผิดชอบของคุณในอนาคต ดังนั้นในขั้นตอนการเขียนจดหมายลาออก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้:
1. เลือกใช้คำศัพท์และภาษาที่เคารพ
เพื่อให้จดหมายของคุณเป็นทางการและได้รับการเคารพจากผู้รับจดหมาย ควรเลือกใช้คำพูดและภาษาที่สุภาพ หลีกเลี่ยงการใช้คำหยาบคายหรือเสียดสี ในกรณีที่คุณมีความสนิทสนมกับผู้รับจดหมาย คุณสามารถใช้คำพูดหรือภาษาที่เป็นทางการน้อยลง แต่ควรใช้คำพูดหรือภาษาที่เคารพและสุภาพเพื่อป้องกันความเกร็งและความรู้สึกที่อาจเกิดขึ้น
2. แสดงความสัมพันธ์และความขอบคุณ
ในจดหมายลาออก คุณควรแสดงความขอบคุณและความสัมพันธ์ที่ดีที่คุณมีกับบริษัทหรือองค์กรที่คุณต้องการลาออก ระบุถึงความพิถีพิถันในการทำงานร่วมกันแล ะความปรารถนาดีของคุณในอนาคต
3. ระบุวันที่และข้อความสิ้นสุด
ในจดหมายลาออกคุณควรระบุวันที่ที่คุณต้องการลาออกและล่วงหน้าก่อนส่งจดหมายอย่างน้อย 2 สัปดาห์ นอกจากนี้คุณควรสรุปจดหมายด้วยคำสุดท้ายที่แสดงความเคารพและขอบคุณอีกครั้ง
ตัวอย่างของจดหมายลาออก:
เรียน คุณพิชัย
นับเป็นเกียรติอย่างสูงที่ผมได้ร่วมงานกับบริษัทพิชัยพาณิชย์ มาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จดหมายฉบับนี้เป็นการแจ้งให้ทางบริษัททราบว่า ผมมีความประสงค์จะลาออกไปเริ่มงานในตำแหน่งใหม่กับบริษัทอื่น ในวันที่ (ระบุวันที่ ซึ่งล่วงหน้าก่อนส่งจดหมายนี้ ประมาณ 2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย)
กรุณารับคำขอบพระคุณและความซาบซึ้งใจของผมในโอกาสที่ได้ร่วมงานกันมา รวมถึงความปรารถนาดีของผมที่มีต่อคุณและบริษัท ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ด้วยความนับถือ
นายสุชาติ แก้วสรรพ
หากคุณปฏิบัติตามขั้นตอนการเขียนจดหมายลาออกอย่างถูกต้อง และสื่อความคิดอย่างเป็นทางการ จะช่วยให้การลาออกของคุณเป็นทางเลือกที่ดีและสร้างความปรารถนาดีในอนาคต
การเขียนจดหมายลาออกอย่างมีประสิทธิภาพ
บางครั้งทางบริษัทอาจเสนอเงื่อนไขเพื่อให้คุณอยู่ต่อ ดังนั้น หากคุณต้องการลาออกจริงๆ ควรให้ความสำคัญและจงหนักแน่นเข้าไว้ คุณสามารถแจ้งหรือยื่นใบลาออกได้ดังนี้:
ขั้นแรก: ระบุความประสงค์ในการลาออก
คุณอาจระบุในการแจ้งหรือยื่นใบลาออกว่า “กระผม/ดิฉัน ขอแสดงความประสงค์ในการลาออกจากตำแหน่ง (ชื่อตำแหน่งของคุณ)ซึ่งจะมีผลในวันที่ (ระบุวันที่คุณทำงานวันสุดท้าย)” เพื่อแสดงความรู้สึกว่าคุณซาบซึ้งใจในการทำงานที่นี่มากเพียงใด
ขั้นที่สอง: พูดถึงความคิดเห็นและประสบการณ์
แม้ว่าคุณจะเบื่องานของคุณทุกกระเบียดนิ้ว แต่ควรมองหาบางอย่างเพื่อแสดงคำชื่นชมให้กับงานและโครงการที่คุณทำสำเร็จ คุณอาจกล่าวประมาณว่า “ผมได้เรียนรู้มากมายจากการทำหน้าที่เป็นผู้ระดมทุนให้แก่มูลนิธิ…” เพื่อที่จริงๆ แล ้วคุณอาจหมายถึงว่าคุณได้รับความสำเร็จและความภาคภูมิใจจากงานที่คุณทำในองค์กรซึ่งอาจมีความซับซ้อนที่คนภายนอกไม่เห็นได้
ขั้นที่สาม: ทบทวนความสำเร็จของตนเอง
อย่ากล่าวเชิงโอ้อวด แต่ควรเปรียบเทียบชิ้นงานและโครงการที่คุณทำสำเร็จ และความภาคภูมิใจของคุณที่ได้ทำ ในการเขียนจดหมายลาออกนี้มีความสำคัญที่เดียว เพราะจดหมายลาออกของคุณจะถูกเก็บเข้าแฟ้มไว้ โดยมีความคิดเห็นจากผู้บริหารไล่ตั้งแต่หัวหน้าคุณขึ้นไป
เปรียบว่าคุณดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับบริษัทนี้ และคุณซาบซึ้งจากใจจริงกับเพื่อนร่วมงานทุกคน รวมถึงหัวหน้าคุณด้วย คุณอาจกล่าวประมาณว่า “ดิฉันคงจะไม่มีโอกาสได้ก้าวสู่เส้นทางการเป็นนักเขียนอย่างในปัจจุบันนี้ หากไม่ได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์และทักษะในธุรกิจด้านสิ่งพิมพ์ จากการทำงานในสำนักพิมพ์แห่งนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา” และควรเตรียมจดหมายดังกล่าวไว้ เพื่อใช้ในการแจ้งหรือยื่นใบลาออกต่อหัวหน้าในอนาคต
คุณกำลังดูโพสต์นี้ วิธีการ ลาออกอย่างสง่างาม
การเข้าหาหัวหน้าให้แจ้งเรื่องสำคัญ
เมื่อคุณต้องการเข้าพบกับหัวหน้าของคุณ เพื่อแจ้งเรื่องสำคัญ คุณสามารถทำได้โดยอย่างไร
วิธีการเข้าพบหัวหน้า
คุณสามารถโผล่หน้าให้หัวหน้าเห็นคุณและขอรับเวลาในการพูดคุยหรือแจ้งเรื่องสำคัญสักครู่ อย่าลืมให้คำพูดของคุณถูกกาลเทศะและเคารพอย่างเหมาะสม เพราะหัวหน้าอาจอยู่ในช่วงที่ไม่สามารถผลักออกจากงานที่ยุ่งเหยิงได้ คุณยังสามารถถามหรือขอหัวหน้าว่า มีเรื่องที่ต้องการพูดคุยหรือปรึกษาในวันถัดไป เพื่อให้หัวหน้ามีเวลาเตรียมตัวและเคลียร์งานก่อนจะมาฟังข่าวสำคัญจากคุณ
การเตรียมตัวก่อนเข้าพบหัวหน้า
เพื่อให้คุณพร้อมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการเข้าพบหัวหน้า คุณควรซักซ้อมด้วยตนเองก่อนที่จะเข้าไปแจ้งหรือยื่นใบลาออกกับหัวหน้า จำไว้ว่าผู้จัดการมักมีธุระและกำลังทำงานอยู่ ดังนั้น การใช้เวลาให้กระชับและตรงไปตรงมาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ต ้องหาถ้อยคำที่เหมาะสมเกินไป คุณสามารถเริ่มด้วยการใช้คำพูดประมาณนี้ได้:”ผมได้คิดเกี่ยวกับทางเลือกอื่นๆ ในเรื่องนี้มาสักระยะนึงแล้วครับหัวหน้า ตอนนี้ผมได้ข้อสรุปแล้วว่าต้องการที่จะออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ผมก็ซาบซึ้งใจที่ได้รับโอกาสมากมายจากการทำงานที่นี่ ตอนนี้ผมขออนุญาตแจ้งอย่างเป็นทางการล่วงหน้า”หรือ”หนูอยากแจ้งให้หัวหน้าทราบ เรื่องที่มีอีกบริษัทหนึ่งมาเสนองานใหม่ให้หนู ซึ่งได้ตอบตกลงไปก่อนหน้านี้แล้ว และจะขอยื่นจดหมายลาออกอย่างเป็นทางการในโอกาสนี้ด้วย ไม่ทราบว่า หากหนูจะลาออกในวันที่ (นับจากวันที่ยื่นไป อย่างน้อยสองสัปดาห์) หัวหน้าจะอนุมัติหรือมีเหตุขัดข้องใดไหมคะ?”
เตรียมตอบคำถามเกี่ยวกับสาเหตุการลาออก และคำถามอื่นๆ ที่หัวหน้าอาจมี เพื่อให้คุณพร้อมจะตอบคำถามนั้นอย่างถูกต้องและมั่นใจ
วิธีการลาออกจากงานอย่างสุภาพและมีประสิทธิภาพ
หากคุณมีการทำงานร่วมกันมานานในองค์กร ควรเตรียมตัวเพื่อเผชิญกับคำถามที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคุณตัดสินใจลาออก สำคัญอย่างหนึ่งคือการเตรียมคำตอบที่กระชับและสอดคล้องกับความคิดเห็นของคุณ
1. การจัดเตรียมคำตอบ
หากคุณตัดสินใจลาออกเพราะคุณรู้สึกเบื่อหน่ายต่องานที่นี่ คุณควรพิจารณาการตอบคำถามโดยใช้วาจาที่ดูดีและสร้างสรรค์ สามารถกล่าวได้เช่น “ฉันรู้สึกว่างานที่นี่ไม่เหมาะกับฉัน แต่ฉันมีความสามารถในสายงานอื่นมากกว่านี้ค่ะ”
1.1 การพูดคุยกับหัวหน้า
หัวหน้าคุณอาจมองหาคุณค่าของคุณมากกว่าที่คุณคิด จึงควรพยายามยื่นข้อเสนอให้กับองค์กร และยืนยันความสามารถของคุณอีกครั้ง การแจ้งลาออกควรสง่างามแ ละสุภาพ ซึ่งอาจมีผลกระทบที่ดีต่อความสำเร็จของข้อเสนอ
2. การพิจารณาข้อเสนอ
หากคุณต้องการพิจารณาที่จะยอมรับเสนอหรือไม่ คุณควรพิจารณาให้ละเอียดถึงเงินเดือน ผลตอบแทน และสวัสดิการที่องค์กรอาจเสนอให้คุณ ควรกำหนดลิมิตของตัวเองไว้เสมอ และพิจารณาปัญหาที่คุณต้องการแก้ไขด้วย เช่น คุณอาจได้รับเสนอที่ต่ำกว่าความคาดหวัง แต่มีโอกาสเปลี่ยนตำแหน่งได้ (กรณีปัญหาเกี่ยวกับตำแหน่งงาน) หรือคุณอาจมีโอกาสย้ายไปยังแผนกหรือสาขาอื่น (กรณีมีข้อขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าแผนก/สาขา) เน้นการสนทนาในเรื่องที่เป็นประโยชน์
2.1 การปกป้องตัวเอง
เมื่อคุณกำลังพิจารณาข้อเสนอที่ได้รับ คุณควรประเมินสาเหตุที่ทำให้คุณต้องการลาออก และต้องการปกป้องตัวเอง ตัวอย่างเช่น อาจมีข้อเสนอปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้น แต่ปัญหาในที่ทำงานอาจมีความซับซ้อนมากกว่านั้น เช่น ตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม (ในกรณีที่ปัญหาของคุณคือการถูกแบนในตำแหน่งปัจจุบัน) หรือต้องย้ายแผนกหรือสาขา (กรณีที่ คุณมีข้อขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าแผนก/สาขา) เพื่อปกป้องสิทธิของคุณให้เป็นอย่างดี
3. การตกลงและการยื่นใบลาออก
หากคุณเสนอให้ยอมรับข้อเสนอใดๆ คุณควรทำให้แน่ใจว่ามีการเซ็นชื่อรับรองและตกลงทางลายลักษณ์อักษรจากทั้งหัวหน้างาน หัวหน้าแผนก และฝ่ายบุคคลของบริษัท โดยองค์กรควรพิจารณาข้อเสนอของคุณและตอบกลับให้ทันที สุดท้ายคุณควรทำการยื่นใบลาออกอย่างสง่างามและสุภาพ ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น
4. คำแนะนำสำหรับการพูดคุย

นอกจากนี้ คุณควรพิจารณาคำแนะนำต่อไปนี้ก่อนที่จะเข้าสู่การพูดคุย:
- คุณควรจะพิจารณาให้ละเอียดก่อนที่จะยอมรับข้อเสนอใดๆ
- เตรียมพร้อมเอกสารที่จำเป็นและต้องการในกรณีที่คุณต้องการเจรจาต่อรอง
- คุณควรกำหนดวัตถุประสงค์และต้องการอย่างชัดเจน
การเข้าสู่การพูดคุยนี้ถือเป็นโอกาสที่สำคัญในการต่อรอง ดังนั้น คุณควรเตรียมตัวและกำหนดลิมิตของตัวเองให้เหมาะสม หากคุณกำลังพอใ จกับข้อเสนอ คุณอาจทำการยื่นใบลาออกอย่างเป็นทางการ
หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถลาออกจากงานอย่างสุภาพและมีประสิทธิภาพได้อย่างสมบูรณ์
การตอบคำถามจากหัวหน้าอย่างสุภาพ
เมื่อหัวหน้าถามว่าคุณมีส่วนในการทำให้คุณอยากลาออกหรือไม่ คุณควรใช้ทักษะการทูตส่วนตัวเพื่อปรับแต่งถ้อยคำและท่าทางการพูด เพื่อให้คำตอบที่ซื่อสัตย์และเข้าถึงได้เมื่อพวกเขาได้ยิน
การใช้ทักษะการทูตส่วนตัว
ในการปรับแต่งถ้อยคำและท่าทางการพูด คุณควรใช้ทักษะการทูตส่วนตัวเพื่อให้เหมาะสมและมีความสุภาพ เช่น ปรับสีหน้าให้เหมาะสม ให้คำตอบที่ถูกต้องตามความเป็นจริงและสร้างความเชื่อมั่น
การรักษาความจริง
เมื่อคุณตอบว่า “ใช่ค่ะ หัวหน้าเพิ่งรู้ตัวหรอ หนูกับเพื่อนๆ คงมีความสุขกว่านี้ ถ้ามีคนอื่นเป็นหัวหน้า” คุณสามารถรักษาความจริงไว้ในขณะที่ใช้ถ้อยคำที่เหมาะสมกว่านี้ เช่น “ก็มีส่วนบ้างนะคะ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เหมือนเรายังไม่ค่อยปรับตัวกันน่ะค่ะ หนูปรับตัวกับสไตล์การทำงานของหัวหน้าไม่ค่อยได้ และก็มีบางเรื่องที่หัวหน้าไม่ค่อยเข้าใจสไตล์ของหนู แต ่โดยรวมแล้วก็ถือว่าในช่วงที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์ที่ดี เพียงแต่หนูตื่นเต้นและเห็นโอกาสในงานใหม่มากกว่า”
การลาออกอย่างสง่างาม: รักษาความสัมพันธ์และการวางตัว
จุดประสงค์ของการลาออกอย่างสง่างามคือการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับบรรดาเพื่อนร่วมงานทุกคนที่เคยร่วมงานกับคุณมา
หากคุณเหวี่ยงทิ้งทวนใส่ทุกคนที่ไม่ชอบหน้า เพราะเห็นว่าไหนๆ ก็จะไปแล้วล่ะก็ คุณอาจไม่ได้รับการอ้างถึงในเชิงบวก หรืออาจไม่ได้รับการช่วยเหลือบอกต่อเวลามีตำแหน่งงานที่เหมาะกับคุณในที่ใดๆ การวางตัวอย่างเหมาะสม ชาญฉลาด และมีอัธยาศัยไมตรีในช่วงที่ลาออกจะเป็นการการันตีถึงอนาคตอันสดใสและประสบความสำเร็จให้แก่ตัวคุณเอง
การเตรียมตัวก่อนลาออก
ระวังไว้ด้วยว่า นายจ้างหรือหัวหน้างานบางคนมักจะไม่ชอบให้ใครเป็นฝ่ายเลือก ดังนั้น จงเตรียมให้แน่ใจก่อนว่า คุณพร้อมที่จะลาออกเดี๋ยวนั้นเลยทันทีก็ได้
ในกรณีที่นายจ้างบางคนมองการลาออกของคุณเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งเขาหรือเธออาจบอกคุณให้เก็บข้าวของออกไปให้พ ้นหน้าทันที โดยไม่ให้โอกาสทำการแจ้งหรือยื่นใบลาออก ดังนั้น จงวิเคราะห์ให้ดีว่านายจ้างของคุณจะเป็นประเภทนั้นหรือไม่ เผื่อใจไว้หน่อย เพราะคุณไม่สามารถคาดเดาพฤติกรรมของคนได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก แต่หากเกิดกรณีดังกล่าว คุณย่อมมีสิทธิที่จะเลือก เพียงแต่คุณต้องศึกษากฎระเบียบของบริษัทหรือข้อสัญญาจ้างงานเอาไว้ล่วงหน้า หากไม่มีการทำสัญญาจ้างใดๆ ก็ให้ยึดถือตามกฎหมายแรงงานนั่นเอง
การลาออกอย่างสง่าผ่าเผย
ไม่ว่าคุณหรือทางแผนกจะต้องย้ายไปสถานที่อื่น หรือลาออกไปทำงานที่ใหม่ หรือแค่ต้องการหนีหน้าใครบางคนไปให้พ้นๆ คุณก็ต้องเดินออกมาอย่างสง่าผ่าเผย ยกมือไหว้ (หรือจับมือ) คนที่กำลังจะเป็นอดีตหัวหน้า (อาจจะแอบดีใจ) สำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา และเดินออกไป กลับไปนั่งที่โต๊ะ หรือประจำตำแหน่งงานของคุณสัก นาที
ตอนนี้ คุณสามารถเริ่มป่าวประกาศข่าวนี้ให้คนอื่นฟังได้แล้ว แต่อย่าไปนินทาหัวหน้าหรือเจ้านาย พยายามรักษาเชิงเอาไว้ แค่บอ กพวกเขาไปว่าคุณจะออกแน่นอนแล้วก็พอ แจ้งให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับงานของคุณทราบ
การแจ้งลาออกจากงานอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่คุณตัดสินใจแจ้งลาออกจากงานของคุณแล้ว คุณควรแจ้งให้ทราบถึงการตัดสินใจของคุณที่หัวหน้างาน อย่าลืมให้ความรู้สึกแก่หัวหน้าแผนกหรือบุคคลที่คุณต้องคอยประสานงานด้วยอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ คุณควรแจ้งให้ผู้จัดการฝ่ายทราบด้วยด้วยเช่นกัน
การแสดงความขอบคุณสำหรับโอกาสในการทำงานที่ผ่านมาเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถใช้วลีเช่น “เราไม่แน่ใจว่าเธอรู้ข่าวหรือยัง แต่เราเพิ่งยื่นใบลาออกไป เพราะต้องไปเริ่มงานที่บริษัทใหม่น่ะ เราแค่อยากมาบอกว่าดีใจที่ได้ทำงานร่วมกับเธอมานะ”
เมื่อมีผู้อื่นที่ต้องลาออกและไปทำงานที่อื่นในอนาคต คุณอาจต้องการให้พวกเขาจดจำคุณในแง่ดีมากขึ้น ความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับคุณจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของหน้าที่การงานของคุณในอนาคต
เคล็ดลับในการแจ้งลาออก
1. สื่อสารอย่างชัดเจน: แน่ใจว่าคุณแจ้งให้ทราบถึงสา เหตุที่คุณตัดสินใจลาออกและขอบคุณสำหรับโอกาสในการทำงานที่ได้รับ
2. ประสบการณ์ที่มีคุณค่า: ทดสอบความสามารถที่คุณได้พัฒนาในระหว่างการทำงานและการเข้าร่วมโครงการที่สำคัญ
3. เสนอความช่วยเหลือ: ต้องการแนะนำคนที่สามารถรับหน้าที่งานของคุณหลังจากคุณลาออก
คำแนะนำสำหรับผู้รับแจ้งลาออก
1. เป็นอารมณ์เป็นกันเอง: แสดงความเข้าใจและอารมณ์ที่ดีต่อผู้ส่งคำขอลาออก
2. รับฟังและอ้างอิง: ขอให้ผู้ส่งคำขอลาออกได้รับฟังและคำแนะนำเพื่อปรับปรุงในอนาคต
3. สร้างบรรยากาศบวรความปลอดภัย: ควรรักษาระบบการทำงานที่ดีและให้ความรู้สึกถึงความมั่นใจในทีมงาน
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จในการเปลี่ยนงาน
การเปลี่ยนงานอาจมีผลกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่และบรรจุภัณฑ์ของคุณ คุณอาจจะได้เป็นหัวหน้าใหม่ในบริษัทใหม่หรืออาจกลายเป็นลูกน้องของคุณ ในกรณีเลวร้ายที่สุด อาจเป็นคนที่คุณเคยทำงานให้เห็นว่าคุณไม่พอใจ
ส่วนสำคัญของการเปลี่ยนงาน
ควรจำไว้ว่าคนที่มีใจกว้างและมุ่งหวังเพียงแต่เรื่องดีๆ มักจะมีโอกาสที่ดีกว่าในการเจริญก้าวหน้าในอนาคตทางด้านการงาน หัวหน้าเก่าของคุณอาจเป็นหัวหน้าใหม่ของคุณอีกครั้ง และอาจช่วยผลักดันคุณให้เคลื่อนย้ายตำแหน่งก่อนเมื่อเทียบกับพนักงานคนอื่นๆ ที่ไม่รู้จักคุณมาก่อน
ประโยชน์ที่อาจได้รับ
เป็นไปได้ว่าคุณจะได้รับผลประโยชน์ต่างๆ อาทิเช่น โอกาสในการโยกย้ายสาขาหรือได้รับงานที่คุณต้องการ อีกทั้งยังมีโอกาสในการได้รับความเอาใจใส่และการส่งเสริมที่ดีจากบุคคลอื่นอีกด้วย
ค วรจำไว้ว่าไม่มีใครมีอิสรภาพมากกว่าคนที่ไม่มีอะไรต้องเสีย การเกลียดชังคนในที่ทำงานเก่าอย่างเพราะว่าคุณได้ลาออกจากนั้น คุณควรที่จะสนใจและตั้งตารอสักเพียง 2 สัปดาห์ จากนั้นคุณจะสามารถพูดถึงประสบการณ์ที่ไม่ดีอย่างถาวรได้
คำเตือน: เตรียมการก่อนลาออกจากออฟฟิศ
เพื่อให้การลาออกจากออฟฟิศของคุณเป็นไปอย่างสง่างามและไม่เป็นภาระ เราขอแนะนำให้คุณเตรียมการดังต่อไปนี้:
1. การเซฟไฟล์ที่สำคัญ
ก่อนที่คุณจะยื่นใบลาออกหรือแจ้งการลาออกให้แน่ใจว่าคุณทำการเซฟไฟล์ทุกอย่างที่คุณต้องการลงดิสก์ ยูเอสบี หรืออีเมลส่วนตัว อาทิเช่น ข้อมูลติดต่อลูกค้า รายชื่อซัพพลายเออร์ หรือเอกสารอ้างอิงต่างๆ รวมถึงงานหรือตัวอย่างผลงานที่คุณเป็นผู้จัดทำเอาไว้ คุณควรตระหนักว่าข้อมูลและวัตถุดิบที่ใช้ในการทำงานมักถือเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ดังนั้น คุณควรนำข้อมูลเหล่านี้ไปเก็บไว้ในส่วนที่คุณมีสิทธิตามกฎหมายหรือขอบข่ายสัญญาจ้างเท่านั้น
2. การจัดเตรียมงานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนั้น คุณควรจัดเตรียมงานหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานของคุณเอาไว้ด้วย อาจเป็นงานที่คุณกำลั งดำเนินการหรือเอกสารที่มีความสำคัญต่อภารกิจของบริษัท ในการลาออกคุณอาจจะไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาเหล่านี้ได้ในอนาคต ดังนั้น เตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อมก่อนที่คุณจะยื่นใบลาออก
การลาออกจากออฟฟิศคือสิ่งที่ต้องทำอย่างรอบคอบและเตรียมการก่อนการลาออกจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถแยกตัวออกจากบริษัทได้อย่างสง่างามและไม่เกิดปัญหาที่ไม่ต้องการในอนาคต