การถูกพ่อแม่ดุอาจเป็นเรื่องที่น่ากลัว คุกคาม หรือเพียงแค่เรื่องที่น่ารำคาญ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการรับฟังสิ่งที่พ่อแม่พูดขึ้นมา
เมื่อถูกดุ คุณควรพยายามใจเย็นพอที่จะไม่ตอบโต้ในทันที แต่ให้สวนกลับไปและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะตอบ เพื่อป้องกันการถูกดุในอนาคต คุณสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
วิธีการรับมือกับการโดนดุให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การรับมือกับการโดนดุต้องเริ่มต้นด้วยใจเย็นและการรับฟังอย่างตั้งใจ เราควรทำความเข้าใจว่าเราไม่ได้โดนดุตลอดเวลา ในบางครั้ง เราอาจรู้สึกว่าพ่อแม่ของเราโกรธเรา 2-3 ชั่วโมงติดกัน อย่างไรก็ตาม หากเรามองดูด้วยการพิจารณาอย่างถูกต้อง จะเห็นได้ว่ามีพ่อแม่ไม่กี่คนที่จะอดทนดุลูกนานขนาดนั้นได้
การตอบสนองต่อการถูกดุอย่างถูกวิธี
เมื่อเราตอบสนองต่อการถูกดุอย่างถูกวิธี จะพบว่าการดุจะไม่ยืดยาว การโดนดุจะช่วยให้เรารู้ว่าเรามีความแข็งแกร่งพอที่จะอดทนต่อการโดนดุเป็นเวลานานได้
การจัดการในขณะที่โดนดุ
เมื่อถูกดุ ควรพยายามเงียบเข้าไว้ หากพูดแทรกขึ้นมา พ่อแม่ของคุณอาจโกรธได้ แม้คุณจะพูดอย่างสุภาพก็ตาม ส่วนใหญ่พวกเขาจะคิดว่าคุณกำลังเถียง ทำตัวหยาบคาย หรืออกตัญญู ดังนั้น ควรพยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่ อช่วยให้ใจเย็นลงและรู้สึกสบายขึ้น
การจัดการความรู้สึกหลังการโดนดุ
เมื่อถูกดุ อาจเกิดความรู้สึกเครียดและเจ็บปวดขึ้น ในกรณีนี้ ควรหายใจเข้าลึกๆ เพื่อช่วยให้ใจเย็นลงและรู้สึกสบายขึ้น หายใจเข้าอย่างน้อย 4 จังหวะ และหายใจออกให้ยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างที่สำคัญคือ ดูให้ดีว่าอากาศที่คุณหายใจเข้าไปนั้นไหลผ่านท้องและทำให้ช่องท้องขยายออก ปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระเล็กน้อย
การสลัดตัวเองเมื่อถูกดุอยู่อย่างรุนแรง

บางครั้งการสลัดตัวเองออกจากการถูกปฏิบัติอย่างรุนแรงก็เป็นวิธีที่ดีที่ทำให้คุณไม่เก็บเรื่องที่ถูกดุเอาไว้ในใจ แหล่งข้อมูลอ้างอิง สิ่งที่สำคัญก็คือคุณไม่ควรเก็บเรื่องพวกนี้เอาไว้ในใจของคุณ เพราะพวกเขาอาจจะโมโหกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ จากการจัดการกับเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ความผิดของคุณ
วิธีที่ดีที่สุดในการสลัดตัวออก
วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยสลัดตัวออกเมื่อกำลังถูกดุอยู่นั้นคือการจดจ่ออยู่กับใบหน้าของพวกเขา สังเกตรายละเอียดบนใบหน้าและความเครียดที่เกิดขึ้นจากการที่พวกเขาดุคุณ การมองเห็นถึงความไม่พอใจและสิ้นหวังที่พวกเขาเผชิญอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่าการมานั่งหาเหตุผลในสิ่งที่พวกเขากำลังพูดอยู่ ด้วยวิธีนี้ คุณจะคิดได้ว่า แม้ว่าคุณเป็นคนเดียวที่ถูกดุ แต่พ่อแม่ของคุณก็กำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากด้วยเช่ นกัน ซึ่งอาจจะเกิดจากความเครียดที่คุณไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรง ทำความดีตอบแทน
การปฏิบัติตัวในสถานการณ์ที่ถูกดุอยู่
ยกตัวอย่างเช่น นำน้ำให้พวกเขาดื่มสักแก้วในขณะที่พวกกำลังดุคุณ จากนั้นให้พูดโดยไม่เสียดสี หยาบคาย หรือไม่สุภาพ ลองด้วยประโยคทำนองว่า “หนู/ผม หวังว่าการดุครั้งนี้จะไม่ทำให้ พ่อ/แม่ เจ็บคอนะ” นอกจากนี้ ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนผิด การทำแบบนี้จะช่วยให้พวกเขารู้สึกผิดว่าการดุคุณนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ฟังอย่างเดียว.
วิธีการตอบสนองเมื่อพ่อแม่โกรธอย่างรุนแรง
เมื่อพ่อแม่ของคุณโกรธอย่างรุนแรง คุณควรใส่ใจในการฟังและไม่ให้จิตใจลอยไปขณะที่พ่อแม่กำลังพูด เพื่อให้คุณเข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ของคุณถึงอารมณ์เสียอย่างนั้น
หากพ่อแม่ของคุณลดระดับการโกรธลงจนสามารถเข้าไปแทรกคำพูดของคุณได้ คุณควรพยายามทวนสิ่งที่พวกเขาพูดเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังฟังอยู่ ประโยชน์ที่คุณจะได้รับคือพ่อแม่ของคุณจะมีโอกาสฟังสิ่งที่พวกเขาพูดและสะท้อนกลับไปยังตัวพวกเขา
ใช้ภาษาที่ชัดเจนและเหมาะสม
เลือกใช้คำสำคัญที่ช่วยให้พ่อแม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาไม่พอใจ เมื่อพ่อแม่ดุคุณเกี่ยวกับเหตุการณ์เฉพาะ คุณควรหาข้อมูลเพิ่มเติมที่พวกเขากังวลและเลือกจุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลานั้นทั้งหมด คิดให้ดีก่อนที่จะตอบโต้
ควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมของคุณ
ระวังท่าทางการตอบโต้ท ี่รุนแรงเกินไป เพราะอาจทำให้เพิ่มความเครียดและทำให้การดุนั้นกลับมาต่อเนื่องและรุนแรงยิ่งขึ้น แม้ว่าพ่อแม่ของคุณอาจโกรธด้วยเหตุผลหรือเหตุผลอื่นๆ การดุนั้นเป็นสัญญาณที่พวกเขาต้องการให้คุณรับฟัง
ดังนั้น ควรปฏิบัติตนอย่างสุภาพ อย่าขว้างปาสิ่งของหรือปิดประตูเสียงดัง ระวังตัวเองให้ไม่ส่งสัญญาณให้พ่อแม่รู้สึกว่าคุณกำลังคัดค้านหรือไม่เข้าใจ
คุณกำลังดูโพสต์นี้ วิธีการ สงบจิตใจเมื่อถูกพ่อแม่ดุ
การตัดสินใจเมื่อโดนดุอย่างต่อเนื่อง
หากคุณโดนดุอย่างต่อเนื่องจนถึงจุดที่คุณไม่สามารถตอบโต้หรือใจเย็นได้อีกต่อไป ให้ลองตัดสินใจออกจากห้องดู โดยค้นหาแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่เป็นที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณได้พิจารณาต่อไปในภายหลัง
เหตุผลที่ควรตัดสินใจออกจากห้อง
การดุอย่างต่อเนื่องอาจทำให้คุณมีความยากลำบากในการคิดถึงปัญหาและแก้ไขได้ ดังนั้นการตัดสินใจออกจากห้องและหาที่เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติมอาจช่วยให้คุณได้สามารถพิจารณาสถานการณ์ได้อย่างมีเหตุผล
วิธีการตัดสินใจออกจากห้อง
คุณสามารถพูดออกมาอย่างชัดเจนว่าคุณต้องการจัดการกับปัญหานี้ในภายหลัง และหลีกเลี่ยงการพูดอย่างหยาบคายหรือว่า “การดุของพ่อ/แม่ มันน่ารำคาญ และทำให้หงุดหงิด” ให้ใช้ลักษณะการพูดที่ไม่ดูดี แต่ให้เลือกพูดให้เป็นแนวทางเช่น “ผม/หนู อยากจะจัดการปัญหานี้นะ แต่ ผม/หนู ไม่มีสมาธิพอที่จะปรึกษาด้วยว ิธีที่ดีได้ในตอนนี้ ผม/หนู อยากจะขอกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อคิดให้ดีก่อน”
ความยากที่อาจเกิดขึ้น
การปลีกตัวออกจากห้องอาจจะทำได้ยาก เพราะพ่อแม่บางคนอาจจะคิดว่าเป็นสัญญาณแสดงความไม่เคารพ ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งอยู่ คุณควรพยายามพูดให้ชัดเจนว่าคุณอยากจะจัดการกับปัญหานี้ในภายหลัง เพื่อลดโอกาสให้เกิดการเข้าใจผิดจากพ่อแม่
วิธีการตอบสนองเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดุในภายภาคหน้า
อย่าขอโทษถ้าคุณไม่ผิดเป็นที่เป็นผลก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อตัวคุณเอง ควรรักษาความภาคภูมิใจและตัวตนของคุณ เมื่อคุณรู้ว่าตัวเองไม่ได้กระทำผิด แต่รู้สึกผิดเพราะทำให้พ่อแม่โกรธ คุณสามารถพูดออกมาและขอโทษด้วยว่า “พ่อ/แม่ ขอโทษที่ทำให้คุณโกรธ และหวังว่าพ่อ/แม่ จะรู้สึกดีขึ้นนะ” ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยอมรับได้ในหลาย ๆ สถานการณ์
การวางแผนรับมือกับความเครียดสามารถช่วยให้คุณลดความกังวลได้ คุณอาจทำกิจกรรมที่ชอบเพื่อสลายเสียความกังวล เช่น การทำความสะอาดห้องหรือออกกำลังกายเล่นกีฬา นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประโยคเดียวเพื่อยืนยันความเข้าใจ ตัวอย่างเช่น “ผม/หนู เข้าใจแล้ว” หรือ “ผม/หนู รู้แล้ว” เมื่อคุณรับรู้และเข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่พูด แต่หากคุณไม่เห็นด้วยหรือไม่เข้าใจ ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ ควรพิจารณาว่าสิ่งที่พวกเขากล่าวมามีความหมายและเหตุผลอย่างไร และรับรู้ความรู้สึกของพวกเขาด้วย
มั่นใจว่าพ่อแม่ของคุณรู้ว่าคุณสามารถรับรู้ถึงอารมณ์เสียที่พวกเขามีต่อสิ่งที่คุณทำ แม้ว่าคุณอาจจะไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดในเรื่องใด อย่าพยายามค้านความจริงที่พ่อแม่ของคุณรู้สึกอยู่ และไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร ควรรับรู้ความรู้สึกของพ่อแม่โดยไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจว่าพวกเขาผิดหรือถูก
วิธีแก้ไขสถานการณ์กับพ่อแม่
เมื่อพบกับสถานการณ์ที่ต้องการแก้ไขกับพ่อแม่ของคุณ คุณสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อให้การแก้ไขเป็นไปอย่างราบรื่น:
1. รักษาจุดยืนของตัวเอง
หากคุณไม่ได้ผิดในสถานการณ์นั้น คุณควรรักษาจุดยืนของตัวเองเอาไว้ อย่าให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คุณเสียสติและนำคุณไปสู่เรื่องราวอื่นๆ คุณอาจค้นหาแหล่งข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว การรักษาความมั่นใจและสมดุลในตัวเองจะช่วยให้คุณมีแนวทางการแก้ไขที่ดีขึ้น
2. เขียนลงกระดาษ
หากคุณมีความคิดที่ต้องการแสดงออกให้พ่อแม่เข้าใจ คุณสามารถเขียนลงกระดาษแทนที่จะพูด เขียนออกมาชัดเจนและกระชับเกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของคุณ เลือกใช้คำศัพท์ที่เหมาะสมและสุภาพ เพื่อให้พ่อแม่เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
3. แสดงความคิดอย่างชัดเจน
เมื่อความสงสัยหรือข้อความที่คุณต้องการสื่อสารถึงพ่อแม่เกิดขึ้น ให้แสดงความคิดของคุ ณอย่างชัดเจน ใช้น้ำเสียงที่ชัดเจนและสุภาพในการอธิบายสาเหตุที่ทำให้คุณกระทำสิ่งนั้น ถ้าคุณสามารถอธิบายความคิดและความรู้สึกของคุณได้ดี พ่อแม่ของคุณจะเข้าใจและให้อภัยคุณได้มากขึ้น
4. หลีกเลี่ยงการเอาเปรียบกับพ่อแม่
ในกระบวนการจัดการอารมณ์โกรธที่พ่อแม่อาจประสบอยู่ คุณควรหลีกเลี่ยงการพูดสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดและอาจส่งผลให้พ่อแม่โกรธมากยิ่งขึ้น อย่างเฉพาะถ้าความแสดงออกของคุณไม่เป็นธรรม ในกรณีที่คุณต้องการแสดงถึงความคิดของคุณที่พ่อแม่อาจเข้าใจ ให้ใช้โอกาสนี้ในการเขียนเพื่อบอกให้พ่อแม่รู้ว่าคุณรู้สึกแย่เมื่อถูกดุ อธิบายถึงประสบการณ์การถูกดุนั้นให้พ่อแม่เข้าใจและตระหนักถึงความจริงที่ว่าการถูกดุสามารถปิดกั้นคุณในการสื่อสารด้วยวิธีอื่นๆ
5. ขอโทษอย่างสุภาพ
หากคุณรู้สึกเจ็บปวดเมื่อถูกดุ คุณสามารถพยายามเรียกร้องคำขอโทษจากพ่อแม่อย่างสุภาพ หากการถูกดุเริ่มอันตราย คุณควรขอความช่วยเหลือในการจัดการกับสถาน การณ์ที่แย่ลง
การแก้ไขสถานการณ์กับพ่อแม่อาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม โดยการรักษาความสงบใจและการพูดอย่างสุภาพ คุณจะสามารถสร้างสรรค์สถานการณ์ที่ดีขึ้นและสร้างความเข้าใจกับพ่อแม่ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การดูแลเด็กที่เดือดร้อน
ดูเหมือนว่าพ่อแม่ของคุณไม่ใจเย็นลงเลยหรือไม่ พวกเขาเคยมีปัญหากับความโกรธหรือใช้ความรุนแรงหรือไม่ ถ้าคุณสัมผัสได้ว่าการดุครั้งนี้นั้นทวีความรุนแรงไปถึงการทำร้ายร่างกาย อย่าลังเลที่จะติดต่อของความช่วยเหลือฉุกเฉิน ถ้าเรื่องอันตรายเกิดขึ้นโดนทันทีทันใด คุณอาจจะแจ้งตำรวจก็ได้
บริการคุ้มครองสิทธิเด็กในประเทศไทย
ในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือและคำปรึกษาเกี่ยวกับเด็กที่อยู่ในสถานการณ์ที่เดือดร้อน คุณสามารถติดต่อ US Office on Women’s Health มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก
การติดต่อเพื่อรับความช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญจะคอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเด็กตลอด 24 ชั่วโมง
หากคุณต้องการรับความช่วยเหลือ โปรดติดต่อทางโทรศัพท์ที่เบอร์:-412-0739
หวังว่าบทความนี้จะเพียงพอต่อความต้องการของคุณในการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง