วิธีการหยุดรักคนที่ไม่ได้รักคุณคือการรู้รอบรู้เช่น โลกที่กำลังจะแตก เมื่อคุณรักใครแต่เขาไม่รักคุณกลับมาตอบโต้ ความเจ็บปวดที่คุณพบเจอจริงๆ สามารถอธิบายได้ว่าเป็นความเจ็บที่เหลือเกินไป วิทยาศาสตร์ได้เผยแพร่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการตกหลุมรักนั้นส่งผลกระตุ้นความเจ็บปวดในสมองเหมือนกับทางร่างกาย สารอ้างอิงแห่งข้อมูลยืนยันว่าคุณไม่สามารถควบคุมความรู้สึกได้ แต่คุณสามารถเรียนรู้วิธีการเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดจากการหักห้ามและทำต่อไปได้
การอกหัก: ทำไมความเจ็บปวดจากการรักษาคนที่ไม่รักตอบถือเป็นปกติ
ในชีวิตประจำวันของเรา การรับรู้ความเจ็บปวดในความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง แต่ความเจ็บปวดนี้ไม่เกิดขึ้นเพียงแค่บริเวณร่างกายเท่านั้น มันเชื่อมโยงกับสมองและระบบประสาทซึ่งมีผลต่อหัวใจและกล้ามเนื้อของเรา (แหล่งข้อมูลอ้างอิง: Greater Good Magazine)
อาการและผลกระทบของความรู้สึกที่แท้จริง
ความเจ็บปวดจากการรักษาคนที่ไม่รักตอบนั้นเป็นอาการทางร่างกายที่แท้จริง และสามารถกระตุ้นระบบประสาทของเราได้ ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นและกล้ามเนื้อเกร็ง (แหล่งข้อมูลอ้างอิง: Greater Good Magazine)
การจัดการกับความเจ็บปวด

การยอมรับว่าความรู้สึกของเราเป็นสิ่งธรรมชาติที่มีความเจ็บปวดเมื่อรักษาคนที่ไม่รักตอบถือนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถจัดการกับความเจ็บปวดได้ (แหล่งข้อมูลอ้างอิง: Greater Good Magazine)
การอกหักและสุขภาพจิต
การอกหักสามารถทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้ (แหล่งข้อมูลอ้างอิง: HelpGuide) หากคุณมีอาการเหล่านี้คุณควรพบคนที่เชี่ยวชาญทางจิตเพื่อขอความช่วยเหลือโดยเร็ว (แหล่งข้อมูลอ้างอิง: HelpGuide)
สัญญาณของการอกหัก
การอกหักอาจแสดงออกผ่านการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการกินหรือการนอน ความรู้สึกสิ้นหวังหรือไร้ประโยชน์ การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ความไม่สามารถควบคุมความคิดเชิงลบ และความคิดที่จะทำร้ายตัวเอง (แหล่งข้อมูลอ้างอิง: HelpGuide)
ความโศกเศร้าไม่ใช่เรื่องที่ผิดตราบใดที่คุณเศร้าไม่นาน
ท่านไม่ต้องรู้สึกผิดหวังเมื่อรู้สึกเศร้า แต่การปล่อยให้ตัวเองเศร้าอยู่นานไม่ใช่วิธีการที่ดี หากคุณปฏิเสธหรือกลั้นความรู้สึกที่มีอยู่ เช่น การพูดออกมาว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่” หรือ “ไม่เคยรักเขาอยู่แล้ว” จะทำให้เรื่องแย่ลงในระยะยาว
หากคุณรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้รักคุณ
คุณควรหาเวลาอยู่กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการไปเดินเล่น 15 นาทีหรือแม้แต่การทำงานก็ได้ อย่าจมปลักอยู่กับความสิ้นหวัง หากคุณไม่ได้ออกจากบ้านมาหลายสัปดาห์ ไม่ได้อาบน้ำและใส่เสื้อผ้าเน่าๆ ที่ควรเอาไปเผาทิ้ง คุณอาจมีอาการหนักแล้ว
การดูแลตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ
ความเศร้าเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าคุณไม่พยายามดึงตัวเองกลับมาตั้งต้นชีวิตใหม่ คุณจะไม่มีวันลืมหรือเลิกรักคนๆ นั้นได้เลย รู้ว่าคุณไม่สามารถควบคุมคนอื่นได้
ปฏิกิริยาที่ควรปฏิบัติเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้รักคุณ
การคิดว่า “ฉันจะทำให้เขารักฉัน” เป็นความคิดที่ปกติที่สุด แต่มันไม่ถูกต้องและไม่มีประโยชน์ สิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้คือการกระทำและปฏิกิริยาโต้ตอบของคุณ คุณไม่สามารถเกลี้ยกล่อม ทะเลาะหรือบังคับให้คนอื่นรู้สึกสิ่งที่เข้าไม่ต้องการได้
การควบคุมตัวเองและปฏิกิริยาที่ถูกต้อง
จำไว้เสมอว่าคุณไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ตลอดเวลา แต่คุณสามารถฝึกควบคุมปฏิกิริยาที่มีต่อความรู้สึกได้ ปลีกตัวออกห่างจากอีกฝ่ายหนึ่งสักพัก
การสร้างพื้นที่ส่วนตัวในการระบายความเศร้า
หนึ่งในวิธีการสร้างพื้นที่ส่วนตัวเพื่อระบายความเศร้าและเพื่อดำเนินชีวิตต่อไปคือการไม่มีฝ่ายหนึ่งปรากฏอยู่ในชีวิตของคุณ คุณไม่ต้องการที่จะตัดเขาออกจากชีวิตของคุณเสียทั้งหมด แต่คุณอาจจะต้องห่างหายจากเขาไปสักครู่เพื่อให้คุณสามารถเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่กำลังทะลุตามมาได้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
คุณไม่จำเป็นต้องกระทำด้วยความชั่วร้าย แค่ขอเวลาจากฝ่ายอีกฝ่ายเพื่อให้คุณสามารถเดินผ่านความรู้สึกที่กำลังลุ่มหลงได้ หากฝ่ายอีกฝ่ายมีความหวังในการดีใจคุณอยู่ พวกเขาจะพยายามปฏิบัติตามคำขอของคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าพอใจหรือไม่ก็ตาม
การก้าวผ่านความรู้สึก
หากคนที่คุณเลือกที่จะยุติความรักคือคนที่เคยให้กำลังใจคุณตลอดเวลาในอดีต คุณสามารถหาเพื่อนคนอื่นที่จะมาแทนที่บทบาทเพื่อให้คุณได้คุยกับในเวลาท ี่คุณต้องการมีใครที่เป็นเพื่อนให้พึ่งพาเมื่อคุณอยากคุยกับใครบางคนที่คุณกำลังหลบหน้าอยู่
คุณควรหยุดเป็นเพื่อนกับคนเดิมในสื่อโซเชียลหรือไม่ก็ซ่อนโพสต์ของเขาไว้ และลบหมายเลขโทรศัพท์ของเขาออกจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้คุณไม่ได้พยายามติดต่อกับเขาอีกครั้ง คุณอาจไม่ต้องการที่จะเตือนให้คุณเกิดความคิดถึงเขาเพราะอาจทำให้ยากต่อการหลุดพ้นและระบายอารมณ์กับตัวเอง
การระบายอารมณ์เป็นวิธีการในการเผยแพร่ความรู้สึก
การระบายอารมณ์สามารถช่วยให้คุณยอมรับว่าคุณกำลังก้าวผ่านวิกฤตชีวิตและยังดีกว่าการเก็บสะสมไว้นานเข้าจนมันระเบิด การระบายอารมณ์สามารถช่วยบำบัดให้ลดความรู้สึกวิตกกังวล ความโกรธและความเครียดของร่างกาย การระบายอารมณ์ออกมาอย่างเปิดเผยและจริงใจ หากอยากร้องไห้ก็ร้องออกมา แต่งานวิจัยแนะนำว่าการใช้ความรุนแรงเพื่อระบายความโกรธนั้นสามารถเพิ่มความโกรธได้จริงๆ ถึงแม้จะเป็นการกระทำต่อวัตถุที่ไร้ชีวิตจิตใจ (แหล่งข้อมูล: Association for Psychological Science)
การเผยแพร่ความรู้สึกของตัวเอง
หากคุณรู้สึกแย่หรือไม่สบายใจ คุณสามารถมองย้อนไปที่ความรู้สึกของตัวเองและพิจารณาดูว่า “ทำไม” คุณถึงรู้สึกแบบนี้นั้นดีและมีประโยชน์มากกว่า (แหล่งข้อมูล: องค์กรนิติบุคคลจิตวิทยาแห่งประเทศไทย)
การระบายอารมณ์ผ่านงานอดิเรกที่สร้างสรรค์
การระบายอารมณ์ผ่านงานอด ิเรกที่สร้างสรรค์ เช่น ดนตรีและศิลปะ มีประโยชน์มาก แหล่งความคิดเช่น American Psychological Association แนะนำว่า คุณควรเลือกงานอดิเรกที่ไม่เศร้าหรือเดือดร้อนมาก เช่น การฟังดนตรีแนวเดธเมทัล ที่อาจทำให้คุณรู้สึกแย่กว่าเดิม
ความสำคัญของความสัมพันธ์ในการรัก
ไม่ว่าคนบุคคลนั้นจะดีแค่ไหนก็ตาม เราจะไม่สามารถมีความสุขกับเขาได้หากเขาไม่รักเรา
การที่จะเชื่อมั่นว่าคนบุคคลใดดีและดีมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เรารัก จำเป็นต้องพิจารณาความจริงโดยไม่มีอคติหรือการเข้าข้าง การพิจารณาแบบนี้สามารถช่วยให้เรารู้สึกดีกับความสัมพันธ์ที่เรามีกับบุคคลนั้น
การรับรู้และการเผชิญกับความจริง
เราสามารถรับรู้และพิจารณาด้านต่าง ๆ ของคนนั้นได้ ที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักเรายากลำบากขึ้น อย่างเช่น ความกังวลทางสังคมอย่างสุดโต่งของเขาอาจทำให้เราไม่มีความมั่นคงที่ความสัมพันธ์ที่เราต้องการ งานวิจัยแนะนำว่าการรับรู้ข้อเสียของอีกฝ่ายสามารถช่วยให้เราก้าวผ่านการเจ็บปวดได้เร็วขึ้น
การลดระดับความขมขื่น
อย่าเผลอพูดสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับอีกฝ่ายเพื่อให้เรารู้สึกดีขึ้น เพราะการคิด แบบนี้อาจทำให้เรารู้สึกขมขื่นและโกรธเคืองมากกว่าช่วยเยียวยาเรา การตอกย้ำความขมขื่นนี้จะรั้งเราไว้ไม่ให้เยียวยาได้อีก
การรับรู้และการยอมรับ
เมื่อคนที่เรารักไม่รักเราโดยไม่ต้องกล่าวโทษ เราสามารถรับรู้และยอมรับความเป็นจริงนั้นได้ อย่าให้เพื่อนของเราโทษเขาด้วย เพราะเพื่อนอาจพยายามทำให้เขาดูไม่ดีในสายตาของเรา หากพวกเขาทำเช่นนั้นจริงๆ ให้ขอบคุณพวกเขาสำหรับกำลังใจ แต่อย่าลืมพูดว่า “มันไม่ยุติธรรมที่จะโทษเขาเพราะสิ่งที่เขาไม่อาจทำให้ได้ ช่วยให้ฉันลืมเขาจะดีกว่า” และพยายามกำจัดความทรงจำนั้น
[22] แหล่งข้อมูลอ้างอิง:ชื่อที่อ้างอิง
[23] แหล่งข้อมูลอ้างอิง:ชื่อที่อ้างอิง
[24] แหล่งข้อมูลอ้างอิง:ชื่อที่อ้างอิง
การกำจัดความทรงเก่าๆเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
ความทรงเก่าๆบางครั้งอาจทำให้เราร้องไห้เสียใจเมื่อต้องกำจัดมันออกไป แต่อย่างไรก็ตาม การกำจัดความทรงเก่าๆเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เราเยียวยาและเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้
การเก็บรวบรวมความทรงจำเหล่านั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะมันช่วยให้เราไม่ลืมและเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีต แต่จำไว้เพียงอย่างเดียวอาจทำให้เรายากต่อการใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่พึงพอใจ คุณอาจไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น!
การทิ้งความทรงจำออกไป
คิดถึงความทรงจำเก่าๆขณะที่คุณกำจัดมันออกไป ลองจินตนาการว่าคุณกำลังใส่ความทรงจำนั้นไว้ในลูกโป่ง แล้วทิ้งลูกโป่งไปในทะเล พยายามให้ความสำคัญและความทรงจำเหล่านั้นไปพร้อมกับลูกโป่ง ซึ่งคุณจะไม่สามารถเห็นมันอีกครั้ง
การบริจาคสิ่งข อง
หากคุณยังคงมีสิ่งของที่ยังคงใช้ได้อยู่ คุณสามารถนำไปบริจาคให้ผู้ที่มีความต้องการมากกว่าคุณ ในการทิ้งสิ่งของเหล่านี้ไป ลองคิดถึงความสุขที่เจ้าของใหม่จะได้รับจากสิ่งของเหล่านี้ และให้สิ่งนี้เป็นตัวแทนการเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่คุณกำลังเผชิญอยู่
การแก้ไขปัญหาระยะสั้น
ในช่วงแรกๆหลังจากการเลิกควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ มีบางคนอาจจะรู้สึกอยากติดต่อกับอีกฝ่ายอย่างมากเพิ่มขึ้น [25] อย่าให้ความตั้งใจของคุณไปสู่เรื่องนี้จนกว่าจะเมา เพราะการดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้คุณสูญเสียการตัดสินใจ [26] Centers for Disease Control and Prevention
เลี่ยงการดื่มจนเมาและการสื่อสารผ่านโทรศัพท์

เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่ทำให้คุณเมา และเลี่ยงการโทรหรือส่งข้อความหาอีกฝ่าย การติดต่อกับอีกฝ่ายในช่วงระยะสั้นอาจทำให้คุณรู้สึกอยากติดต่อเขามากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ คุณควรระวังการดื่มแอลกอฮอล์และการสื่อสารผ่านโทรศัพท์ในช่วงเวลาที่แอลกอฮอล์ส่งผลต่อความตั้งใจและการตัดสินใจของคุณ [26] Centers for Disease Control and Prevention
เบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง
หากคุณรู้สึกต้องการติดต่อกับอีกฝ่ายอย่างมาก คุณสามารถก้าวผ่านความต้องการนี้โดยการเลือกกิจกรรมหรืองานที่ช่วยให้คุณเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง โทรศัพท์ของคุณสามารถให้เพื่อนที่เป็นคนขับรถเก็บไว้ชั่วคราว และอย่าให้ใครคืนโทรศัพท์ให้คุณโดยเด็ดขาด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ คุณยังสามารถลบอีกฝ่ายออกจากโทรศัพท์ของคุณ เพื่อไม่ให้คุณสามารถโทรหรือส่งข้อความหาเขาได้ โดยใช้เวลานั้นให้คุณคิดถึงเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจเป็นกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ตลก หรือมีกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ เพื่อให้ความคิดเก่า ๆ ไม่ผุดขึ้นในหัวของคุณ [27] แหล่งข้อมูลอ้างอิง
เคล็ดลับสำหรับการเบี่ยงเบนความสนใจของคุณ
เพื่อช่วยให้คุณสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของอีกฝ่ายได้นานพอที่จะไม่นึกถึงเขา คุณสามารถกำหนดเวลาที่จะคิดถึงเขาได้ โดยเมื่อความคิดเกี่ยวกับเขาผุดขึ้นในหัวของคุณ ให้ค ุณสังเกตและควบคุมอารมณ์ของคุณ ให้คุณตั้งใจว่า “ไม่ใช่ตอนนี้ เดี๋ยวค่อยนึกถึงเขาในภายหลัง” และเมื่อถึงเวลาที่คุณตั้งใจจะคิดถึงเขา คุณสามารถเลือกทำกิจกรรมอื่น ๆ หรือคิดถึงเรื่องอื่นที่น่าสนใจ เพื่อให้คุณไม่คิดถึงเขาอย่างต่อเนื่อง การกำหนดเวลาในการคิดถึงเขาประมาณ 15 นาทีสามารถช่วยให้คุณมีสมาธิในเรื่องอื่น ๆ และเบี่ยงเบนความสนใจของคุณได้ [27] แหล่งข้อมูลอ้างอิง
อย่าลืมว่าอีกฝ่ายก็เจ็บปวดเช่นเดียวกับคุณ ดังนั้น ควรจำไว้ว่าการหยุดคิดถึงเขาจะทำให้คุณและอีกฝ่ายมีความสบายใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาระยะสั้นอาจใช้เวลาและความตั้งใจ แต่การปฏิบัติตามเคล็ดลับดังกล่าวอาจช่วยให้คุณเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำแนะนำในการจัดการความเจ็บปวดจากความรู้สึกอกหัก
เมื่อคุณรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่คุณรู้สึกเมื่ออกหักคือเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกนี้ ความรู้สึกนี้อาจกระทบถึงอีกฝ่ายด้วยที่อาจรู้สึกความเจ็บปวดที่ไม่สามารถรักคุณได้เช่นกัน คนส่วนใหญ่มักไม่ชอบทำให้คนอื่นรู้สึกเจ็บปวด [28]
มุมมองต่าง ๆ จากฝ่ายอื่น
การพึงพอใจว่าอีกฝ่ายอาจรู้สึกแย่ที่ไม่สามารถให้สิ่งที่คุณหวังได้ สามารถเป็นที่มาของมุมมองที่แตกต่างกันได้ อย่างไรก็ตาม การตอบไม่ดีจากอีกฝ่ายไม่ใช่สิ่งที่บ่งบอกว่าเขาคือคนที่เกลียดหรือต้องการทำร้ายคุณ คุณอาจเขียนลิสต์ข้อดีของตัวคุณเองเพื่อเสริมแรงใจ
วิธีการจัดการความรักต่อตัวเอง
การอกหักสามารถเป็นอุปสรรคที่เสริมแรงความรู้สึกแปลกๆ ที่อยู่ภายในตัวคุณ อย่าปล่อยให้ตัวเองเชื่อว่าเพียงเพราะอีกฝ่ายไม่รักคุณแปลว่าคุณไม่ควรค่ากับความรัก การเตือนตัวเ องว่าคุณควรรักและค่ากับตัวเองจะช่วยให้คุณสามารถก้าวข้ามการอกหักได้เร็วขึ้นและจัดการกับความร้ายครั้งต่อไปได้ดีขึ้น [29]
การสร้างความเชื่อมั่นและความเป็นมืออาชีพ
เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความเป็นมืออาชีพในตัวคุณเอง คุณสามารถเขียนลิสต์ของสิ่งที่คุณพิเศษและยอดเยี่ยมเกี่ยวกับตัวคุณเอง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและรับรู้คุณค่าของตัวคุณ [30]
การเริ่มเยียวยา เลี่ยงตัวกระตุ้นความทรงจำ
การเริ่มเยียวยาตัวเองจากความรักข้างเดียวไม่ใช่เรื่องง่าย เพื่อที่จะเยียวยาตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรหลีกเลี่ยงการกระตุ้นความทรงจำในตัวเอง อย่างไรก็ตาม หากคุณยังคงเตือนตัวเองเกี่ยวกับอีกฝ่ายเรื่องนี้อยู่เสมอ คุณควรหลีกเลี่ยงการค้นหาเพลงหรือสถานที่ที่สามารถเรียกให้คุณนึกถึงช่วงเวลาที่ดีที่คุณมีกับเขา[31]
ตัวกระตุ้นความทรงจำ
ตัวกระตุ้นความทรงจำสามารถเป็นอะไรก็ได้ เช่น การเห็นรูปของเขาบนหน้าฟีดของเฟซบุ๊ค หรือการได้ยินเพลงที่เชื่อมโยงกับช่วงเวลาที่ดีที่คุณมีกับเขา หรือแม้กระทั่งกลิ่นที่เชื่อมโยงกับความทรงจำ (เช่น กลิ่นของแอปเปิ้ล หากคุณเคยทำพายแอปเปิ้ลกับเขา)[31]
การจัดการกับตัวกระตุ้นความทรงจำ
หากคุณพบตัวกระตุ้นความทรงจำโดยบังเอิญ (ซึ่งอาจเกิดข ึ้นได้) คุณควรรับรู้ถึงช่วงเวลานั้นและเดินหน้าต่อไป อย่าให้อารมณ์ความรู้สึกจับตัวคุณเกินไปจนทำให้ความทรงจำผุดขึ้นมา เช่น หากคุณได้ยินเพลงที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำผ่านวิทยุ ให้ปิดวิทยุหรือเปลี่ยนช่องวิทยุ เพื่อให้คุณรับรู้ความเศร้าและอารมณ์ผิดที่อาจถาโถมใส่คุณ และให้สนใจสิ่งอื่นที่เป็นบวกหรือกลาง (เช่น คิดเรื่องอาหารมื้อค่ำหรือแผนการท่องเที่ยวที่กำลังจะไป) จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องเลี่ยงตัวกระตุ้นความทรงจำตลอดไป คุณเพียงแค่ต้องการให้กระบวนการเยียวยาเป็นไปอย่างง่ายที่สุดและการเตือนความทรงจำบ่อยๆ อาจทำให้กระบวนการนี้ยากขึ้น แต่เมื่อคุณเคลื่อนไปข้ามช่วงเวลานี้ไปได้แล้ว ตัวกระตุ้นความทรงจำอาจยังคงเตือนคุณถึงคนอื่น แต่จะไม่เจ็บปวดมากนัก คุยกับคนอื่นให้ได้
อ้างอิง:
- 31: [เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูล]
การเยียวยาและการพัฒนาความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ
เมื่อคุณรู้สึกอับอายหรือเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากต่างๆ การคุยเปิดอกเรื่องอารมณ์และมุมมองต่างๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเยียวยาตนเองให้ดีขึ้นในระยะยาว [32]
หาคนที่คุณไว้ใจเพื่อคุยเกี่ยวกับอารมณ์และปัญหาที่คุณกำลังเผชิญอยู่ คนเหล่านั้นอาจเป็นเพื่อนที่คุณรู้จักที่จะไม่เร่งเร้ากระบวนการเยียวยาของคุณ สมาชิกครอบครัวที่คุณสามารถโทรหาเวลาคุณรู้สึกเศร้าหมองหรือนักบำบัดจิตใจก็เป็นทางเลือกที่ดี [33]
เพื่อให้คุณสามารถติดตามและพัฒนาขั้นตอนการเยียวยาจิตใจได้ดีขึ้น คุณสามารถจดบันทึกความรู้สึกที่มีได้ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณมองเห็นการก้าวผ่านและการพัฒนาของตนเองในการเยียวยา การพูดคุยกับผู้ที่เคยประสบปัญหาที่คล้ายกันก็เป็นประโยชน์อย่างมาก คุณสามารถถามเกี่ยวกับประสบการณ์และวิธีการจัดการของพวกเขา คนที่มีประสบการณ์ เดียวกันจะเข้าใจปัญหาของคุณได้ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเล่าปัญหากับคนที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์เดียวกัน อาจทำให้เขาไม่เข้าใจ ดังนั้น จึงควรพัฒนาความสัมพันธ์และความเชื่อกับพระเจ้า (พระพุทธเจ้า) ซึ่งเป็นแหล่งพลังและความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณที่สามารถเป็นอาวุธสำหรับคุณในการอดทนในยามที่ลำบาก [34]
การคุยเปิดอกเรื่องอารมณ์และมุมมอง
การคุยเปิดอกเรื่องอารมณ์และมุมมองที่ยากต่างๆ ของการเยียวยาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยเยียวยาตนเอง หากคุณยังคงกังวลหรือติดตามอารมณ์นั้นไว้ อาจทำให้คุณมีความยากลำบากในระยะยาว [32]
การค้นหาคนที่ไว้ใจได้
หาคนที่คุณไว้ใจและพูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึกและปัญหาที่คุณเผชิญอยู่ คนเหล่านั้นอาจเป็นเพื่อนที่คุณรู้ว่าเขาจะไม่เร่งกระบวนการเยียวยาของคุณ สมาชิกครอบครัวหรือผู้ให้คำปรึกษาทางจิตวิญญาณเช่น นักบำบัดจิตวิญญาณ เป็นต้น ก็เป็นทางเลือกที่ดี [33]
การจดบันทึกความรู้สึก
การจดบันทึกความรู้สึกที่คุณมีสามารถช่วยให้คุณติดตามและพัฒนาขั้นตอนการเยียวยาจิตใจของคุณได้ นอกจากนี้ การพูดคุยกับคนที่เคยประสบปัญหาที่คล้ายกันยังมีประโยชน์อีกด้วย คุณสามารถสอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์และวิธีการจัดการของพวกเขาได้ ซึ่งคนที่มีประสบการณ์เดียวกันจะเข้าใจปัญหาของคุณได้ดี อย่าลืมว่าคุณไม่จำเป็นต้องอธิบายมาก เพียงแค่พวกเขาเข้าใจคุณเพียงพอ [33]
พัฒนาความสัมพันธ์และความเชื่อกับพระเจ้า
การพัฒนาความสัมพันธ์และความเชื่อกับพระเจ้า (พระพุทธเจ้า) เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากพลังและความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณของพระเจ้าสามารถเป็นอาวุธสำหรับคุณในการอดทนในเวลาที่ยากลำบาก [34]
ผลข้างเคียงของการอกหักและวิธีการฟื้นตัว
ผลข้างเคียงที่ใหญ่หลวงของการอกหักคือการรู้สึกถูกตัดขาดจากคนอื่นๆ คุณอาจจะไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับคนๆ นี้ได้แต่คุณสามารถทำความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ในชีวิตให้แข็งแรงได้
การมีความสัมพันธ์กับคนที่คุณรัก
งานวิจัยจาก American Psychological Association ได้เสนอว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่คุณรักสามารถช่วยให้คุณฟื้นตัวได้เร็วขึ้น การใช้เวลาที่สนุกกับคนที่คุณรักสามารถช่วยให้คุณฟื้นตัวจากการอกหักได้เนื่องจากความเจ็บปวดทางอารมณ์ปรากฏออกมาทางกายภาพ ความสนุกนั้นสำคัญเพราะการทำงานของมันที่สมอง การรู้สึกสนุกช่วยลดความรู้สึกโกรธและทำให้คุณรู้สึกบวก
การหัวเราะเป็นยาที่ดีที่สุด
แหล่งข้อมูลอ้างอิงได้กล่าวว่าการหัวเราะคือยาที่ดีที่สุดเพราะมันช่วยหลั่งสารเอนดอร์ฟินส์ที่เป็นสารกระตุ้นความสุขของร่างกาย มันยังสามารถเพิ่มความสามารถใน การกำจัดความเจ็บปวดของร่างกายอีกด้วย
ดังนั้น คุณจึงควรไปดูหนังตลก ร้องเพลงคาราโอเกะเมาๆ หรือกระโดดโลดเต้นบนแทรมโพลีนอันใหญ่ ทำอะไรที่สนุก หัวเราะและเรียนรู้ที่จะเยียวยารักษา ท้าทายความคิดที่ไร้ประโยชน์
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- [35] American Psychological Association
- [36] แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- [37] แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ความคิดและกระบวนการการเยียวยา
รูปแบบที่เฉพาะเจาะจงของความคิดสามารถส่งผลร้ายต่อกระบวนการการเยียวยาของคุณและทำให้มันยากขึ้นที่จะเดินหน้าต่อHelpGuideแหล่งข้อมูลอ้างอิง
จำไว้ว่าคุณสามารถอยู่โดยไม่มีเขาได้และเขาคนนั้นไม่สมบูรณ์แบบ คุณสามารถรักคนอื่นได้อย่างดี เตือนตัวเองว่าคนและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้ สิ่งที่คุณรู้สึกตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะรู้สึกตลอดชีวิต โดยเฉพาะถ้าคุณพยายามอย่างหนักที่จะรู้สึกต่างออกไป
กระบวนการการหยุดความคิด
มีการบำบัดที่เรียกว่า“กระบวนการการหยุดความคิด”ซึ่งคุณควรพยายามอย่างมากที่จะไม่ยึดติดกับความคิดของคนที่คุณรัก มันจะไม่ง่ายแต่คุณสามารถฝึกการขจัดความคิดของคนๆ นั้นออกจากสมองให้เร็วที่สุด อย่างน้อยคุณควรพยายามไม่ว่ามันจะดูเป็นไปไม่ได้แค่ไหน ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
บุญที่สั่งสมมาจะช่วยให้คุณเยียวยาและรักษาเ วลาที่มีค่าได้
ชีวิตนี้คือของขวัญชิ้นสำคัญ อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่คู่ควรและคนที่จะไม่ยอมสละเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อคุณ แล้วคุณจะสละเวลาของคุณให้เขาทำไม? จงใช้เวลาดีกว่าปล่อยให้เวลาใช้คุณ
บางคนพูดว่า“เวลารักษาได้เกือบทุกอย่าง”จงมีความหวังว่าสักวันคุณจะลืมความรู้สึกเหล่านี้และคุณจะเข้มแข็งและฉลาดขึ้นกว่าคนอื่น หลายสิ่งเกิดขึ้นในชีวิตซึ่งเราแก้ไขไม่ได้ จงมองคนที่โชคร้ายกว่าคุณ การอกหักนั้นรุนแรงและเจ็บปวดแต่เราต้องดึงตัวเองออกมาและแวดล้อมไปด้วยคนที่เข้มแข็งกว่า
จงรักตัวเองให้มากและอย่าทำร้ายตัวเอง จงพัฒนาตัวเองเพื่อตนเอง ขอพรจากพระให้คุณมีอนาคตที่สดใสและอารมณ์ที่แข็งแกร่งในทุกแง่มุมของชีวิต มองว่าสิ่งนี้คือประสบการณ์ชีวิต
แหล่งข้อมูลอ้างอิง: HelpGuide
การอกหักและการเติบโตในชีวิต
ไม่มีใครอยากอกหัก แต่หากคุณตีกรอบการอกหักครั้งนี้ให้เป็นประสบการณ์ชีวิตเพื่อเรียนรู้และเติบโตจากมัน มันจะเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาเศร้าช่วงหนึ่งของชีวิต
คุณสามารถใช้ประสบการณ์นี้เป็นแรงกระตุ้นในการเติบโตแง่บวกในอนาคต
การเติบโตผ่านประสบการณ์การอกหัก
เมื่อคุณตีกรอบการอกหักแล้ว คุณสามารถค้นหาสิ่งที่สามารถยกย่องเกี่ยวกับประสบการณ์นี้ได้ เช่น ความเข้มแข็งและความอดทนที่คุณพัฒนาขึ้น คุณอาจจะทุ่มเททำให้ตัวเองแข็งแกร่งและกล้าหาญมากขึ้นเพื่อที่จะไม่ให้ถูกทำลาย
อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะต้องเผชิญกับความลำบากในการเชื่อมโยงกับคนอื่น หรือพบเจออารมณ์ลึกซึ้ง เช่น ความสุขและความรัก หากคุณไม่ยอมรับความอ่อนแอ
ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับพ่อแม่
หากคุณไม่รู้สึกไม่มั่นคงในความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับพ่อแม่ของคุณเมื่อคุณเป็นเด็ก อาจมีความเป็นไปได้ที่คุณจะตกหลุมรักคนที่หักอกคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าในอนาคต
หากคุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว คุณควรพิจารณาการปรึกษานักบำบัด เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและรับมือกับอารมณ์และความต้องการของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ
การเติบโตและการเรียนรู้จากประสบการณ์การอกหัก
หากคุณเคยตกหลุมรักคนที่หักอกคุณมากกว่าหนึ่งครั้ง คุณอาจจะกำลังเลือกคนที่ตอกย้ำปัญหาเดียวที่คุณมีกับพ่อแม่ของคุณ ดังนั้นคุณควรเตือนตัวเองให้ระมัดระวังและค้นหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
การอกหักไม่ใช่วิธีที่น่ายินดีในการฝึกทักษะเหล่านี้ แต่หากคุณสามารถใช้เวลานี้เพื่อเรียนรู้และเติบโต คุณจะพัฒนาความแข็งแกร่งและความอดทนที่สูงขึ้นในด้านอื่นๆ ของชีวิตของคุณ
การปรับตัวและการเปลี่ยนแปลง
ความอกหักและการเติบโตให้คุณมีโอกาสในการเข้าใจอารมณ์และความต้องการของตนเองมากขึ้น ดังนั้น เปลี่ยนแปลงกิจวัตรของคุณให้เกิดขึ้น คุณสามารถพัฒนาศักยภ าพและประสิทธิผลในชีวิตอีกด้านหนึ่งได้
การพัฒนาตนเองและการแทนที่พฤติกรรมเก่าๆ
งานวิจัยเสนอว่าการทำสิ่งใหม่ๆ คือวิธีที่ดีที่สุดในการแทนที่พฤติกรรมเก่าๆ ด้วยพฤติกรรมใหม่ๆ เช่น ไปเที่ยวหรือใช้เส้นทางอื่นไปทำงาน [45]
การทำสิ่งเล็กๆ แต่ทำทุกวัน
หากคุณไม่สามารถทำสิ่งใหญ่ๆ ทำสิ่งเล็กๆ ก็ได้แต่ให้ทำทุกวัน ไปเที่ยวอีกมุมหนึ่งของเมือง หาที่เที่ยวใหม่สำหรับคืนวันเสาร์ จัดเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ร่วมวงดนตรีใหม่ เรียนรู้งานอดิเรกใหม่ๆ เช่น ทำอาหารหรือปีนหน้าผา เลี่ยงการทำอะไรสุดโต่งนอกจากคุณต้องการทำมันจริงๆ บางคนตัดผมออกหรือสักรอยสัก คุณควรรอหลังจากการเยียวยาช่วงแรกก่อนทำการเปลี่ยนแปลง ค้นหาตัวเอง [46]
ค้นหาตัวเองและการพัฒนาส่วนตัว
คุณอาจลืมความเป็นตัวเองเพราะมันแต่รักคนอื่นอยู่แสนนาน การเยียวยาการอกหักคือเวลาที่ดีที่จะค้นหาตัวเองจากความรู้สึกที่คุณมีต่อผู้อื่น [46]
การอยู่ร่วมกับตัวเองและตัวค นอื่น
พัฒนาความก้าวหน้าส่วนตัว อย่าเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกี่ยวกับตัวคุณที่อีกฝ่ายอาจเคยไม่ชอบ [47]
การพัฒนาตัวเองและเรียนรู้
อย่างไรก็ตาม หากมีด้านไหนๆ ที่คุณอยากพัฒนาก็จงทำมัน เช่น เรียนภาษาใหม่ ทำรูปแบบการออกกำลังกายใหม่หรือเรียนการเล่นกีต้าร์ฟลามิงโก้ เป็นต้น พัฒนาสิ่งที่ทำให้คุณไม่เหมือนใคร ในขณะที่คุณใช้เวลามากมายในการหมกมุ่นเรื่องของคนๆ นี้ ด้านอื่นๆ ที่สำคัญก็หมดความหมายลงไป ทำตัวมีส่วนร่วมกันสิ่งต่างๆ หรือคนที่คุณไม่มีเวลาให้ในอดีตเพราะมัวแต่จัดการกับความรักข้างเดียวอยู่ [48]
ต่อต้านแรงกระตุ้นเพื่อรับมือกับการอกหัก
คุณอาจคิดง่ายๆ ว่าอีกฝ่ายปฏิเสธรักคุณเพราะคุณไม่สวย ไม่ฉลาด ไม่เท่ห์พอหรือเหตุผลต่างๆ นานา การเรียนรู้ที่จะเลี่ยงความคิดแบบนี้จะช่วยให้คุณเจ็บใจน้อยลงและยังป้องกันไม่ให้คุณ “แก้ไข” ตัวเองเพราะความอยากเอาชนะความรักของอีกฝ่าย จำไว้ว่าคุณไม่ผิด [48]
การผลักตัวเองออกจากขอบเขตความสบาย
การพัฒนาตนเองไม่ควรจำกัดเพียงข้างในขอบเขตความสบาย ลองยุติธรรมใหม่ อย่างที่ว่าเราสามารถเติบโตและเรียนรู้ได้จากการท้าทายตนเอง [48]
การลองสิ่งใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตนเองและเติบโต
การลองสิ่งใหม่ๆ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถออกจากกิจวัตรธรรมดาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับคนที่เรากำลังพยายามลืมเพราะเราไม่มีเวลาเสียในการมีความสนใจในเรื่องของคนเหล่านั้น [49]
การผลักตัวออกจากขอบเขตความสบาย
การผลักตัวออกจากขอบเขตความสบายของเรามีประโยชน์อย่างมากมาย นอกจากการที่เราจะสามารถพัฒนาตนเองและเติบโตได้ ความสบายที่เกินไปอาจลดแรงกระตุ้นในการเปลี่ยนแปลง ส่วนความไม่แน่นอนเล็กน้อยจะช่วยให้เรามีความกล้าหาญในการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวในชีวิต [50]
การรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต
การผลักตัวออกจากอดีตและขอบเขตความสบายยังช่วยให้เราสามารถรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคตได้โดยง่ายขึ้น การรับความเสี่ยงที่ควบคุมอยู่และการท้าทายตัวเองช่วยให้เรายอมรับความอ่อนแอว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของชีวิต ดังนั้น เมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น จะ มีผลต่อเราน้อยลงและเราจะสามารถเข้ารับมือกับมันได้อย่างง่ายดาย [51]
การเปลี่ยนแปลงโดยไม่กลัวถูกปฏิเสธ
หากคุณกลัวว่าการถูกปฏิเสธครั้งนี้เป็นเพราะตัวคุณเอง อาจทำให้คุณไม่กล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่อีกครั้ง การผลักดันตัวเองไปเสี่ยงเล็กน้อยจะช่วยให้คุณไม่ตกอยู่ในความกลัวอีก [52]
การเดินหน้าต่อไป: รายละเอียดและเคล็ดลับที่ควรรู้
เมื่อคุณมีความตั้งใจที่จะเดินหน้าต่อไป ควรทราบว่าคุณควรเริ่มเมื่อไร สิ่งสำคัญคือไม่ใช่เรื่องของการเดินหน้าต่อในชีวิตหลังจากเกิดเหตุการบาดเจ็บ เพราะไม่ใช่ทุกคนฟื้นตัวได้เร็วเท่ากัน อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณบอกให้คุณรู้ว่าคุณพร้อมที่จะเดินหน้าต่อ โดยสัญญาณนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณถูกปฏิเสธโดยคนที่ไม่ได้รักคุณ [53]
การสังเกตและการเตรียมตัว
เพื่อเริ่มการเดินหน้าต่อไปได้ คุณควรเริ่มสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ไม่ใช่เพียงตัวคุณเองเท่านั้น เมื่อคุณเริ่มสนใจในสิ่งที่คนอื่นทำ คุณจะพบว่าคุณกำลังเติบโตและก้าวหน้าในกระบวนการการเยียวยาจิตใจ
เลี่ยงการกลับสู่สภาพเดิม
หากคุณต้องการเดินหน้าต่อไป คุณควรหยุดสงสัยว่าคุณจะไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก คุณอาจตกอยู่ในสภาพเดิมหากคุณไม่ระวัง ดังนั้น เพื่อป้องกันการกล ับไปเป็นเหมือนเดิม คุณควรเลี่ยงทำสิ่งต่างๆ กับอีกฝ่ายหรือปล่อยให้เขากลับมาในชีวิตของคุณ คุณควรมั่นใจก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
ความรู้สึกอยากกลับไปสู่สภาพเดิมอาจเกิดขึ้นได้ แต่คุณต้องระวังว่าการยอมแพ้อาจทำให้คุณแย่ลงในระยะยาว ดังนั้น อย่าท้อแท้กับความรู้สึกที่อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม คุณควรพยายามในการลืมเขาและอย่างแน่นอนว่ามันจะมีผลสำเร็จ
เมื่อคุณเริ่มเดินหน้าต่อไป คุณควรเตรียมตัวให้แข็งแรงพอ เหมือนการเอาไหมออกจากแผลที่ยังไม่แห้ง คุณกำลังเยียวยาอยู่แต่ยังไม่แข็งแรงพอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงคุณควรหลีกเลี่ยงการทำให้เขากลับมาในชีวิตของคุณจนกว่าคุณจะมั่นใจว่าคุณไม่ต้องการกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง
การเป็นโสด: วิธีที่จะพบคนใหม่และลืมคนเก่า
เมื่อคุณต้องการพบคนใหม่และลืมคนเก่า มีบางวิธีที่คุณสามารถทำเพื่อเพิ่มโอกาสในการพบคนที่น่าสนใจได้
กระตุ้นความมั่นใจของคุณ
การกระตุ้นความมั่นใจของคุณเป็นสิ่งสำคัญในการพบคนใหม่ คุณสามารถทำได้โดยการเพิ่มความน่าสนใจในตัวเอง เช่น การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม การฝึกฝนทักษะและความสามารถต่างๆ และการยอมรับและเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง
พิจารณาคุณสมบัติที่ดีของคนใหม่
เมื่อพบกับคนใหม่ คุณควรคิดถึงคุณสมบัติที่ดีของเขา เช่น ความสวยงามที่มากกว่าคนเก่า ความเขาลูกลวงที่น่าตลกกว่า ความฉลาดที่เหนือกว่าหรือความรับผิดชอบที่มากกว่า การมองเห็นมุมมองที่ดีขึ้นจะช่วยให้คุณมองโลกในแง่บวกมากขึ้น
สนุกกับการพบคนใหม่
คุณไม่จำเป ็นต้องกระทำเพื่อหาคู่รักใหม่ทันที แต่สนุกกับการพบกับคนใหม่ได้เสมอ การมีทัศนคติเชิงบวกและความเป็นส่วนตัวจะช่วยให้คุณฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ความระมัดระวังในการพบคนใหม่
ควรระมัดระวังในการเริ่มความสัมพันธ์กับคนใหม่ คุณควรมีอารมณ์ที่พร้อมและเป็นกลาง และควรตรงไปตรงมากับตัวเองและคู่แข่งของคุณในการเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ อย่าทำให้คนใหม่รู้สึกเศร้าเหมือนในความรักที่คุณพยายามลืม
เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการลืมคนรัก คุณสามารถอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งที่เข้มแข็งได้
คำเตือน: อย่าอยู่กับความสัมพันธ์ที่ไม่มีรัก
คุณควรระวังการอยู่กับความสัมพันธ์ที่ไม่มีความรักอย่างแท้จริง เพราะว่าคุณอาจคิดว่าคุณสามารถเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายรักคุณได้โดยใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป
ความสุขที่แท้จริงในความสัมพันธ์
การอยู่กับคนที่ไม่ได้รักคุณจะทำให้คุณและเขาไม่มีความสุขที่แท้จริง เพราะความสัมพันธ์ที่ไม่มีความรักไม่สามารถเติมเต็มความสุขให้กับทั้งสองฝ่ายได้อย่างยุติธรรม
วิธีการหยุดรักคนที่ไม่ได้รักคุณ
เมื่อคุณตระหนักถึงความจริงที่ความสัมพันธ์ที่คุณกำลังอยู่ไม่มีความรักต่อคุณ คุณควรพิจารณาการหยุดสัมพันธ์นั้น เพื่อให้คุณและเขาสามารถก้าวไปข้างหน้าและมีความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง
หาความสนุกในชีวิตคนเดียว
ในขณะที่คุณยังไม่พบคนที่รักคุณอย่างแท้จริง คุณสามารถหาความสนุกและความพึงพอใจในชีวิต คนเดียวได้ ทำสิ่งที่คุณรักและที่คุณสนใจ เช่น เรียนรู้สิ่งใหม่ ท่องเที่ยว หรือเรียนรู้เกี่ยวกับตนเอง
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่คุณ และจะช่วยให้คุณมีข้อมูลที่จำเป็นในการหยุดรักคนที่ไม่ได้รักคุณ