บทความนี้จะอธิบายวิธีการค้นหา iPhone ที่หายหรือถูกขโมยอย่างละเอียดเบื้องต้น รวมถึงแนะนำขั้นตอนเพิ่มเติมที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหา iPhone ที่หายไปได้อย่างง่ายดาย โดยการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวจะช่วยให้เราสามารถค้นหา iPhone ที่หายไปได้โดยทันทีและง่ายกว่าเดิม ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้ iPhone ที่มีปัญหาดังกล่าว

วิธีใช้งาน Find My iPhone ในการค้นหา iPhone ที่หายไป
เปิดแอป Find My iPhone หรือเข้าเว็บ iCloud
เพื่อเริ่มต้นการค้นหา iPhone ที่หายไปด้วย Find My iPhone คุณจะต้องเปิดแอป Find My iPhone บนอุปกรณ์อีกเครื่องหรือเข้าเว็บ iCloud ผ่านเบราว์เซอร์ โดยต้องทำการล็อกอินด้วย Apple ID และรหัสผ่านเดียวกันกับ iPhone ที่หายไป
หากแอป Find My iPhone ถูกติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์คนอื่น คุณจะต้องแตะ “Sign Out” ที่มุมขวาบนของหน้าจอแอปก่อน จึงจะสามารถล็อกอินด้วย Apple ID ของคุณได้
ค้นหาตำแหน่ง iPhone ที่หายไปบนแผนที่
หลังจากล็อกอินด้วย Apple ID แล้ว คุณจะเห็นหน้าจอที่แสดงอุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับบัญชี Apple ID ของคุณ แตะที่อุปกรณ์ iPhone ที่คุณต้องการค้นหา ซึ่งจะอยู่ในรายชื่ออุปกรณ์ที่แสดงบนแผนที่
หาก iPhone อยู่ใกล้เคียง คุณสามารถใช้ “Play Sound” บนหน้าจอ Find My iPhone เพื่อส่งเสียงเตือนให้คุณหาเจอได้
เปิด Lost Mode และใส่โค้ดปลดล็อค
หากคุณคิดว่ามือถือของคุณหายไปหรือถูกขโมยไป คุณสามารถเปิด Lost Mode บนหน้าจอ Find My iPhone เพื่อล็อก iPhone และใส่โค้ดปลดล็อคเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลภายใน iPhone ข
วิธีใช้ Google Timeline เพื่อค้นหาตำแหน่ง iPhone ที่หายไป
เข้าเว็บ Google Timeline
เพื่อเริ่มต้นการค้นหาตำแหน่ง iPhone ที่หายไปด้วย Google Timeline คุณต้องเข้าเว็บ Google Timeline ที่ https://www.google.com/maps/timeline โดยจะต้องล็อกอินด้วยบัญชี Google ของคุณ
หากไม่ได้เปิดใช้งาน Location Reporting และ History บน iPhone ของคุณไว้ วิธีนี้จะไม่สามารถใช้งานได้ คุณสามารถค้นหาตำแหน่ง iPhone ด้วยวิธีอื่นๆ
เรียกดู Google Timeline ของ iPhone ของคุณ
หลังจากล็อกอินเข้าสู่ Google Timeline ในหน้าจอ Today จะแสดง Timeline ของ iPhone ของคุณ ที่ถูกแสดงใน sidebar ทางซ้ายของหน้าจอ
คุณสามารถเลื่อนลงไปท้าย Timeline เพื่อหา Location Report ล่าสุดของ iPhone ได้
ตรวจสอบตำแหน่งของ iPhone
คุณสามารถตรวจสอบตำแหน่งของ iPhone ที่หายไปได้โดยเช็ค Location Report บน Google Timeline ของคุณ ถ้า iPhone ของคุณถูกขโมยไปหรืออยู่ที่ตำแหน่งใดก็ตาม คุณจะเห็นได้ว่า iPhone ของคุณอยู่ที่ไหน
คุณสามารถใช้ Google Maps เพื่อแสดงตำแหน่งของ iPhone ได้ โดย Google Maps จะใช้เทคโนโลยี GPS เพื่อระบุตำแหน่งคร่าวๆ ของ iPhone
วิธีใช้ Apple Watch หา iPhone ที่หายไป
Apple Watch สามารถใช้หา iPhone ที่หายไปได้ โดยสามารถตามไปได้ตลอดเวลาเพียงเครื่อง Apple Watch กับ iPhone ที่เชื่อมต่อกันผ่าน Bluetooth หรือสัญญาณ Wi-Fi เดียวกัน
เปิดเมนู Glances
เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน Apple Watch ในการหา iPhone ที่หายไป คุณต้องปัดหน้าจอ Apple Watch ขึ้นไปเพื่อเปิดเมนู Glances ก่อน
แตะปุ่ม “Ping”
ใน Glances คุณจะพบปุ่ม “Ping” อยู่ใต้ส่วนของ Airplane Mode, Do Not Disturb และ Silent Mode ให้แตะปุ่มนี้เพื่อให้ iPhone ของคุณส่งเสียงปิ๊งเพื่อให้คุณหาเครื่องเจอได้
ค้นหา iPhone
เมื่อแตะปุ่ม “Ping” แล้วยังไม่พบ iPhone ของคุณ ลองแตะปุ่มนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะเจอ iPhone ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
ถ้าคุณต้องการทำให้ไฟ LED ของ iPhone ของคุณกระพริบ ให้แตะปุ่ม “Ping” ค้างไว้เพื่อช่วยให้คุณเจอ iPhone ในบริเวณที่มืดหรือตอนกลางคืนได้ง่ายขึ้น
วิธีติดตาม iPhone ด้วยแอพ GPS tracking
หากคุณต้องการติดตามตำแหน่งของ iPhone ที่หายไป คุณสามารถติดตั้งแอพ GPS tracking ลงใน iPhone เพื่อช่วยค้นหาตำแหน่งได้ง่ายขึ้น
เข้าเว็บ official ของแอพ GPS tracking
คุณต้องเปิดเบราว์เซอร์ Internet แล้วเข้าเว็บ official ของแอพ GPS tracking ที่คุณต้องการติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้ใน iPhone
ล็อกอิน
เมื่อเข้าสู่เว็บของแอพ GPS tracking ให้ล็อกอินด้วยข้อมูลที่คุณได้สร้างไว้ตอนติดตั้งแอพใน iPhone
ติดตามตำแหน่ง iPhone
ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏในเว็บของแอพ GPS tracking เพื่อติดตามตำแหน่ง iPhone โดยแอพ GPS tracking จะแสดงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับ activity หรือการใช้งานของ iPhone เช่น ตำแหน่งก่อนหน้า ข้อความที่ถูกส่ง การโทรออก และอื่นๆ
ติดต่อผู้พัฒนาแอพ
หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการติดตาม iPhone ด้วยแอพ GPS tracking คุณสามารถติดต่อผู้พัฒนาแอพเพื่อขอการสนับสนุนหรือความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้
เนื่องจาก Apple ไม่รับรองแอพ GPS tracking นอก store คุณจึงต้องติดต่อผู้พัฒนาเท่านั้น
วิธีค้นหา iPhone ที่หายไป
โทร iPhone ของคุณ
หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการค้นหา iPhone ที่สูญหายคือการโทรหา คุณสามารถใช้โทรศัพท์เครื่องอื่นเพื่อโทรหา iPhone ของคุณหากคุณสามารถเข้าถึงได้ หากโทรศัพท์อยู่ในบริเวณใกล้เคียง คุณควรจะได้ยินเสียงเรียกเข้า
ใช้เครื่องมือบนเว็บ
หากคุณไม่สามารถเข้าถึงโทรศัพท์เครื่องอื่นได้ คุณสามารถใช้เครื่องมือบนเว็บ เช่น ICantFindMyPhone.com เพื่อโทรหาโทรศัพท์ของคุณได้ เพียงป้อนหมายเลขโทรศัพท์ของคุณบนเว็บไซต์ จากนั้นระบบจะโทรหาคุณ
ตรวจสอบจุดซ่อนเร้น
ตรวจสอบบ้านและสถานที่อื่นๆ ที่คุณอาจเคยไปเพื่อหาโทรศัพท์ของคุณ มองหามันในจุดซ่อนเร้นหรือบริเวณที่คุณอาจเผลอทิ้งไว้
ใช้โซเชียลมีเดีย
แจ้งเพื่อนของคุณบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเช่น Twitter, Facebook และ Snapchat ว่า iPhone ของคุณหาย พวกเขาอาจช่วยคุณค้นหาได้
ยื่นรายงานตำรวจ
หากคุณเชื่อว่าโทรศัพท์ของคุณถูกขโมย ให้แจ้งความกับตำรวจ แจ้งสถานีตำรวจในพื้นที่ที่โทรศัพท์หายหรือถูกขโมย คุณยังสามารถติดต่อที่ทำงานหรือโรงเรียนของคุณหากคุณทำโทรศัพท์หายที่นั่น
ติดต่อผู้ให้บริการของคุณ
ติดต่อผู้ให้บริการมือถือของคุณหากโทรศัพท์ของคุณยังคงหายไป คุณสามารถบล็อกหมายเลขโทรศัพท์ของคุณได้ และผู้ให้บริการของคุณอาจช่วยเหลือคุณในการติดตามโทรศัพท์ของคุณได้
ใช้หมายเลข IMEI
หากคุณมีหมายเลข IMEI/MEID ของ iPhone ให้แจ้งตำรวจ พวกเขาสามารถติดตามโทรศัพท์โดยใช้หมายเลขนี้ คุณยังสามารถใช้ไดเร็กทอรีออนไลน์ เช่น Lostphone เพื่อตรวจสอบว่ามีคนพบโทรศัพท์ของคุณหรือไม่
ยกเลิกการชำระเงิน
คุณสามารถยกเลิกการชำระค่าบริการโทรศัพท์ได้ในขณะที่พยายามค้นหาโทรศัพท์ของคุณ ผู้ให้บริการส่วนใหญ่อนุญาตให้คุณระงับการชำระเงินชั่วคราวในขณะที่คุณค้นหาโทรศัพท์ของคุณ
คุณกำลังดู: วิธีการ หาไอโฟนที่หายไป
ป้องกันการสูญเสียในอนาคต
ผู้ให้บริการบางรายอนุญาตให้คุณตั้งค่ากรอบเวลาที่โทรศัพท์ของคุณจะไม่ทำงาน พิจารณากำหนดกรอบเวลาในกรณีที่โทรศัพท์ของคุณสูญหายหรือถูกขโมยในอนาคต
บทสรุป
การทำ iPhone หายอาจเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิด แต่มีหลายขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้เพื่อค้นหาเครื่องดังกล่าว ลองโทรหาโทรศัพท์ของคุณหรือใช้เครื่องมือบนเว็บเพื่อค้นหา ตรวจสอบจุดซ่อนเร้นและใช้โซเชียลมีเดียช่วยค้นหา แจ้งความกับตำรวจ ติดต่อผู้ให้บริการของคุณ และใช้หมายเลข IMEI หากโทรศัพท์ของคุณยังสูญหาย สุดท้าย คุณสามารถยกเลิกการชำระค่าบริการโทรศัพท์ของคุณในขณะที่ค้นหาและตั้งค่ากรอบเวลาในกรณีที่คุณสูญเสียอีกครั้งในอนาคต
วิธีเปิดใช้งาน Find My iPhone บนอุปกรณ์ iOS
ค้นหา iPhone ของฉันเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์บนอุปกรณ์ iOS ที่สามารถช่วยคุณค้นหาตำแหน่ง iPhone ที่สูญหายหรือถูกขโมย ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนในการเปิดใช้งาน Find My iPhone:
ขั้นตอนที่ 1: เปิดการตั้งค่า
เปิดแอปการตั้งค่าบนอุปกรณ์ iOS ของคุณ คุณจะพบแอพที่มีไอคอนรูปเฟือง (⚙️) บนพื้นหลังสีเทา ซึ่งปกติจะอยู่บนหน้าจอหลัก
ขั้นตอนที่ 2: แตะที่ Apple ID
แตะที่ Apple ID ซึ่งอยู่ที่ด้านบนของเมนูและมีชื่อและรูปภาพของคุณหากตั้งค่า
หากคุณยังไม่ได้เข้าสู่ระบบ ให้แตะ “ลงชื่อเข้าใช้ (อุปกรณ์ของคุณ)” แล้วป้อน Apple ID และรหัสผ่าน จากนั้นแตะ “ลงชื่อเข้าใช้”
หมายเหตุ: หากคุณใช้ iOS เวอร์ชันเก่า คุณอาจไม่เห็นส่วนหัว Apple ID ในการตั้งค่า
ขั้นตอนที่ 3: แตะที่ iCloud
แตะที่ “iCloud” ซึ่งอยู่ในส่วนที่สองของเมนู
ขั้นตอนที่ 4: แตะที่ค้นหา iPhone ของฉัน
เลื่อนลงมาแล้วแตะที่ “ค้นหา iPhone ของฉัน” ที่อยู่ในส่วน “แอปที่ใช้ ICLOUD” ที่ด้านล่างของเมนู
ขั้นตอนที่ 5: เปิด Find My iPhone และส่งตำแหน่งล่าสุด
สลับสวิตช์ “ค้นหา iPhone ของฉัน” เพื่อเปิด สวิตช์จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว คุณสมบัตินี้ช่วยให้คุณค้นหา iPhone ของคุณโดยใช้อุปกรณ์อื่น
สลับสวิตช์ “ส่งตำแหน่งล่าสุด” เพื่อเปิด คุณสมบัตินี้จะส่งตำแหน่ง iPhone ของคุณไปยัง Apple เมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย ก่อนที่จะปิดเครื่อง
เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะสามารถเปิดใช้งาน Find My iPhone บนอุปกรณ์ iOS ของคุณและค้นหาตำแหน่งที่ตั้งในกรณีที่เครื่องสูญหายหรือถูกขโมย