เอ็กซ์เรย์ (หรือเรียกว่าการถ่ายภาพรังสี) เป็นการทดสอบที่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดเพื่อใช้ตรวจดูภายในร่างกายและความแตกต่างระหว่างเนื้อเยื่ออ่อนกับวัตถุที่มีความหนาแน่น (เช่น กระดูก) การเตรียมตัวก่อนเข้าเอ็กซ์เรย์ เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ควรทราบและปฏิบัติตามเพื่อให้กระบวนการเป็นไปได้ราบรื่นและลดความกังวลใจลงได้
เอ็กซ์เรย์นั้นถูกใช้โดยทั่วไปสำหรับการระบุตำแหน่งอาการหักหรือติดเชื้อในกระดูกและตรวจหาเนื้องอกทั้งชนิดที่ไม่เป็นอันตรายและชนิดที่เป็นมะเร็ง นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้ในการวินิจฉัยปัญหาระบบทางเดินอาหารหรือการกลืนวัตถุแปลกปลอม ในกรณีที่คุณทราบล่วงหน้าว่าจะต้องเจออะไรและต้องเตรียมตัวอย่างไร จะช่วยให้กระบวนการเตรียมตัวและการฉายรังสีเป็นไปได้ราบรื่นและลดความกังวลใจของคุณลง
เพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าเอ็กซ์เรย์ คุณสามารถทำตามขั้นตอนดังนี้:
เตรียมตัวสำหรับการเอ็กซ์เรย์
การเอ็กซ์เรย์เป็นกระบวนการที่มีความจำเป็นสำหรับการวินิจฉัยปัญหาสุขภาพของคุณ ก่อนที่คุณจะเข้ารับการฉายรังสี เราขอแนะนำให้คุณปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อขอคำปรึกษาและแนะนำเพิ่มเติม
ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฉายรังสี

คุณต้องปรึกษาแพทย์ก่อนรับการเอ็กซ์เรย์ เป็นสิ่งสำคัญมากโดยเฉพาะหากคุณอยู่ในช่วงให้นมลูกน้อยหรือกำลังหรือคิดว่ากำลังตั้งครรภ์ การรับรังสีอาจเป็นอันตรายต่อตัวอ่อนในครรภ์ได้ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเฉพาะตัวของคุณ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่คุณอยู่อย่างเฉพาะเจาะจง แต่คุณสามารถสอบถามเพื่อหาวิธีการตรวจสอบรูปภาพที่ไม่ใช่การรับรังสีที่เป็นอันตรายแทนได้
การอดอาหารก่อนการเอ็กซ์เรย์
แพทย์อาจสั่งให้คุณอดอาหารก่อนเข้ารับการเอ็กซ์เรย์ การต้องอดอาหารมักจะเกิดขึ้นเมื่อคุณต้องทำการเอ็ก ซ์เรย์รูปภาพทางเดินอาหาร เพื่อให้ผลการตรวจออกมาได้ถูกต้อง ถ้าคุณได้รับคำแนะนำให้อดอาหารก่อนเข้ารับการเอ็กซ์เรย์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ผลการตรวจมีความถูกต้อง โดยปกติแล้ว คุณจะต้องอดอาหารก่อนรับการเอ็กซ์เรย์เป็นเวลา 8 ถึง 12 ชั่วโมง
การรับยาก่อนการเอ็กซ์เรย์
ถ้าคุณกำลังต้องใช้ยาและจำเป็นต้องอดอาหารก่อนเข้ารับการเอ็กซ์เรย์ คุณควรจิบน้ำเล็กน้อยก่อนรับประทานยา แต่ควรสอบถามแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาที่คุณกำลังใช้
การเตรียมตัวก่อนการเอ็กซ์เรย์
การเตรียมตัวให้ถูกต้องก่อนการเอ็กซ์เรย์เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากคุณอาจต้องถอดเสื้อผ้าหรือนั่งรอเป็นเวลานาน ดังนั้นคุณควรเตรียมตัวให้รู้สึกสบายกาย
การเตรียมเสื้อผ้า
คุณควรสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบายและรองเท้าที่สะดวก เนื่องจากคุณอาจต้องถอดเสื้อผ้าก่อนการตรวจและ/หรือต้องนั่งรอเป็นเวลานาน คุณสามารถสวมเสื้อผ้าหลวมๆ เช่นเชิ้ตติดกระดุมและกระทั่ งบราที่มีสลักถอดด้านหน้าสำหรับคุณผู้หญิง เมื่อต้องรับการเอ็กซ์เรย์หน้าอก คุณจะได้รับเสื้อคลุมยาวมาใส่ระหว่างการเอ็กซ์เรย์
การถอดเครื่องประดับและอุปกรณ์
คุณควรถอดบรรดาเครื่องประดับ กระจก และโลหะทั้งหลายออกก่อนการเอ็กซ์เรย์ เพื่อป้องกันการสะท้อนแสงที่อาจเกิดขึ้น ควรทิ้งเครื่องประดับไว้ที่บ้าน เนื่องจากอาจต้องถอดออกในระหว่างกระบวนการตรวจสอบ ถ้าคุณสวมแว่น ก็ควรถอดแว่นออกเช่นกัน คุณควรทำการเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเวลานัดเพื่อประหยัดเวลาและให้กระบวนการเอ็กซ์เรย์เป็นไปได้สะดวกและราบรื่นมากที่สุด
เมื่อคุณมีความจำเป็นต้องกรอกเอกสารเพิ่มเติม คุณควรมาถึงก่อนเวลานัดเพื่อป้องกันการล่าช้า นอกจากนี้คุณอาจถูกขอให้ฉีดสารทึบรังสีก่อนการเอ็กซ์เรย์ด้วย อย่าลืมนำเอกสารที่ได้รับการลงชื่อจากแพทย์ (ถ้ามี) เมื่อนำเอกสารไปยื่นให้เจ้าหน้าที่รังสีการแพทย์ แบบฟอร์มนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าต้องทำเอ็กซ์เรย์ส่วนใดของร่างกายและประเภทของการเอ็กซ์เรย์ที่จำเป็น
อย่าลืมเตรียมบัตรประกันชีวิตหรือบัตรประกันสังคมของคุณ และปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับการเอ็กซ์เรย์ช่องท้อง
เตรียมตัวก่อนเอ็กซ์เรย์
เมื่อเริ่มกระบวนการเอ็กซ์เรย์แล้ว คุณจะไม่สามารถออกมานอกห้องถ่ายรังสีได้ ให้คอยดูแลตนเองจนสบายตัวก่อนการเอ็กซ์เรย์ อีกทั้งอย่าดื่มน้ำมากเกินไปในตอนเช้าก่อนเข้ารับการเอ็กซ์เรย์
นอกจากนี้ คุณควรเตรียมตัวที่จะดื่มน้ำสารทึบรังสีตามความเหมาะสม บางครั้งการดื่มน้ำสารทึบรังส ีจำเป็นเพื่อช่วยเน้นลักษณะสัณฐานบริเวณจำเพาะของร่างกายบนภาพเอ็กซ์เรย์ การดำเนินการนี้จะขึ้นอยู่กับชนิดของการเอ็กซ์เรย์ที่คุณถูกร้องขอ
ตรวจสอบท่าทางและการรักษาตัว
เจ้าหน้าที่รังสีการแพทย์จะจัดท่าตำแหน่งร่างกายของคุณให้เหมาะสมระหว่างเครื่องฉายรังสีกับแผ่นฟิล์มที่ภาพจะไปปรากฎ บางครั้งอาจใช้กระสอบทรายหรือหมอนมาพยุงให้คุณค้างอยู่ในท่าที่ต้องการด้วย
คุณอาจได้รับคำขอให้ขยับร่างกายเพื่อถ่ายภาพทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ระหว่างการฉายรังสีจะไม่มีความรู้สึกใดเกิดขึ้น
กระบวนการเอ็กซ์เรย์
เอ็กซ์เรย์เป็นกระบวนการที่ไม่เกิดอาการเจ็บปวดขณะที่ลำแสงเอ็กซ์เรย์ผ่านทะลุร่างกายของเราเพื่อปรากฎภาพบนแผ่นฟิล์ม กระบวนการนี้จะใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีสำหรับการเอ็กซ์เรย์กระดูก แต่อาจใช้เวลานานขึ้นหากต้องใช้สารทึบแสงเข้าช่วย
เข้าใจเอ็กซ์เรย์ทรวงอกและกระดูก
การเอ็กซ์เรย์ (X-ray) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการถ่ายภาพภายในร่างกายเพื่อวินิจฉัยและตรวจสอบสภาวะต่างๆ ของอวัยวะและโครงสร้างต่างๆ ในร่างกาย
การเอ็กซ์เรย์ทรวงอก
การเอ็กซ์เรย์ทรวงอกเป็นกระบวนการที่พบได้บ่อยที่สุดและใช้ในการถ่ายภาพหัวใจ ปอด ทางเดินหายใจ หลอดเลือด และกระดูกสันหลังกับซี่โครง การเอ็กซ์เรย์ทรวงอกมักใช้ในการวินิจฉัยหรือตรวจดูอาการต่างๆ เช่น โรคปอดบวม หัวใจวาย หนองในช่องปอด มะเร็งปอด และน้ำท่วมปอดหรือถุงลมโป่งพอง
เมื่อแพทย์แนะนำให้คุณรับการเอ็กซ์เรย์ทรวงอก คุณไม่จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวอะไรล่วงหน้า แค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- หากมีเครื่องปรับอากาศให้ถอดออก
- คุณจะต้องเสื้อผ้าหรือวัสดุอื่นที่อยู่บนหน้าอกและหลังทิ้งออก
- คุณอาจต้องสวมเข็มขัดเพื่อให้เสื้อผ้าเปิดออกเพียงพอเพื่อให้สามารถถ่ายภาพได้ดี
- คุณอาจถูกขบวนการกระตุ้นให้ลอยหนักหรือหายใจลึกเพื่อให้ภาพเกิดความชัดเจนมากขึ้น
- แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะให้คำแนะนำเพิ่มเติมในขณะที่คุณอยู่ในห้องถ่ายภาพ
การเอ็กซ์เรย์ทรวงอกจะใช้เวลาประมาณ 15 นาทีและมักต้องถ่ายภาพทรวงอกสองด้าน
การเอ็กซ์เรย์กระดูก
การเอ็กซ์เรย์กระดูกใช้ในการถ่ายภาพกระดูกในร่างกายเพื่อตรวจหาการหัก ข้อต่อหลุด อาการบาดเจ็บ อาการติดเชื้อ และการโตหรือการเปลี่ยนแปลงของกระดูกอย่างผิดปกติ
การเอ็กซ์เรย์กระดูกยังมีความสามารถในการตรวจหามะเร็งกระดูกหรือเนื้องอกอื่นๆ และระบุตำแหน่งของวัตถุแปลกปลอมในเนื้อเยื่ออ่อนรอบๆ และ/หรือในกระดูก
เมื่อแพทย์แนะนำให้คุณรับการเอ็กซ์เรย์กระดูก คุณไม่จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวอะไรล่วงหน้า แค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- หากมีเครื่องปรับอากาศให้ถอดออก
- คุณอาจต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อผ้าที่ให้ความโปร่งแสงมากพอที่จะถ่ายภาพได้ดี
- คุณอาจ ต้องถอดเครื่องประดับหรือวัตถุเล็กๆ ออกจากภายในบริเวณที่จะถ่ายภาพ
- คุณอาจต้องเปลี่ยนท่าทางหรือขยับตัวตามที่แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์แนะนำ
การเอ็กซ์เรย์กระดูกมักใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีเพื่อการถ่ายภาพ
การเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนบน (Upper Gastrointestinal (GI) Tract)
การเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนบนเป็นกระบวนการที่ใช้ในการวินิจฉัยและตรวจสอบโรคและสภาวะต่างๆ ในกระเพาะอาหารส่วนบนของร่างกาย เช่น แผลในกระเพาะอาหาร หรือโรคกรดไหลย้อน
เมื่อแพทย์แนะนำให้คุณรับการเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนบน คุณไม่จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวอะไรล่วงหน้า แค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- คุณอาจต้องงดรับอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิดก่อนการตรวจ
- คุณอาจต้องสอดเข็มในเส้นเลือดเพื่อให้สามารถให้สารเคมีที่ช่วยในการเพิ่มความชัดเจนของภาพ
- แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะให้คำแนะนำเพิ่มเติมในขณะที่คุณอยู่ในห้องถ่ายภาพ
การเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนบนในการวินิจฉัยอาการและปัญหาภายในท้อง
การเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนบนเป็นกระบวนการที่ใช้ประกอบการวินิจฉัยอาการบาดเจ็บหรือปัญหาภายในหลอดอาหาร ท้องและลำไส้เล็ก แพทย์อาจสั่งให้ทำเอ็กซ์เรย์ KUB ซึ่งเป็นเอ็กซ์เรย์ช่องท้องแบบธรรมดา กระบวนการเอ็กซ์เรย์ประเภทนี้ต้องใช้การเอ็กซ์เรย์พิเศษที่เรียกว่า ฟลูออโรสโคปี (fluoroscopy) ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพอวัยวะภายในกำลังทำงานได้อย่างชัดเจน
เตรียมตัวรับสารทึบรังสีแบเรียมก่อนการเอ็กซ์เรย์
ก่อนทำการเอ็กซ์เรย์บางครั้งคุณอาจจำเป็นต้องรับผลึกผงฟูเพื่อทำให้ภาพเอ็กซ์เรย์มีความชัดยิ่งขึ้น อีกทั้งคุณต้องปัสสาวะก่อนทำการเอ็กซ์เรย์ถ้าเป็นไปได้
การวินิจฉัยโรคและอาการที่ช่วยได้จากการเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนบน
การเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนบนช่วยวินิจฉัยอาการอย่า ง การกลืนอาหารลำบาก การปวดทรวงอกและช่องท้อง กรดไหลย้อน อาเจียนโดยหาคำอธิบายไม่ได้ อาหารไม่ย่อยขั้นรุนแรง และการถ่ายอุจจาระเป็นเลือด นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหาร่องรอยของสภาวะอย่าง แผลเปื่อย เนื้องอก ไส้เลื่อน ลำไส้อุดตัน และแผลอักเสบในช่องท้อง
การเตรียมตัวก่อนการเอ็กซ์เรย์
ถ้าแพทย์แนะนำให้คุณรับการเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนบน คุณจำเป็นต้องอดอาหารเป็นเวลา 8-12 ชั่วโมงก่อนการรับการเอ็กซ์เรย์ และพึงเตือนตัวเองให้ปัสสาวะก่อนทำการเอ็กซ์เรย์
ระยะเวลาการทำเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนบนและผลข้างเคียงที่เป็นไปได้
การเอ็กซ์เรย์ประเภทนี้ใช้เวลาราว 20 นาที และอาจทำให้คุณรู้สึกท้องเฟ้อและอาจมีอาการท้องผูกหรืออุจจาระเปลี่ยนเป็นสีเทาหรือสีขาวจากสารทึบแสงเป็นเวลา 48 ถึง 72 ชั่วโมงหลังการเอ็กซ์เรย์
การเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนล่าง
การเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนล่างเป็นการตรวจสอบลำไส้ใหญ่ ไส้ติ่ง และบางส่วนของลำไส้เล็กโดยใช้วิธีฟลูออโรสโคปีและสารทึบรังสีแบเรียมเป็นเครื่องมือในการวินิจฉัยโรคทางเดินอาหาร
วัตถุประสงค์ของการเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนล่าง

การเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนล่างมีวัตถุประสงค์ในการวินิจฉัยอาการท้องร่วงเรื้อรัง อุจจาระเป็นเลือด ท้องผูก น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ มีเลือดออกหรือมีอาการปวดในช่องท้อง
โรคที่สามารถวินิจฉัยได้ผ่านการเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนล่าง
แพทย์สามารถใช้การเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนล่างเพื่อตรวจหาเนื้องอกชนิดไม่อันตราย มะเร็ง โรคที่ทำให้ลำไส้อักเสบ โรคถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ หรือลำไส้ใหญ่อุดตัน
การเตรียมตัวก่อนการเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนล่าง
หากแพทย์แนะนำให ้ท่านรับการเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนล่าง ท่านจำเป็นต้องทำการเตรียมตัวดังนี้:
- อดอาหารหลังเที่ยงคืน
- ดื่มเฉพาะของเหลวใสเช่นน้ำผลไม้ น้ำชา กาแฟดำ โคล่า หรือน้ำซุป
- รับยาถ่ายเพื่อล้างลำไส้ใหญ่ในคืนก่อนทำการเอ็กซ์เรย์
- พึงเตือนตัวเองให้ปัสสาวะก่อนทำการเอ็กซ์เรย์ (ถ้าเป็นไปได้)
กระบวนการการเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนล่าง
การเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนล่างใช้เวลาประมาณ 30-60 นาทีเพื่อดำเนินการเสร็จสิ้น ท่านอาจรู้สึกมีแรงดันในช่องท้องหรือปวดท้องเล็กน้อยหลังการเอ็กซ์เรย์
การดูแลหลังการเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหารส่วนล่าง
หลังการเอ็กซ์เรย์คุณอาจได้รับยาถ่ายเพื่อชำระสารทึบรังสีแบเรียมออกไปจากระบบย่อยอาหาร
การถ่ายภาพรังสีจากการฉีดสารทึบแสงเข้าข้อ (arthrography)
การถ่ายภาพรังสีจากการฉีดสารทึบแสงเข้าข้อ (arthrography) เป็นกระบวนการเอ็กซ์เรย์แบบพิเศษที่ใช้เพื่อวินิจฉัยสภาวะที่ส่งผลกระทบต่อไขข้อในร่างกาย
ประเภทของการถ่ายภาพรังสีจากการฉีดสารทึบแสงเข้าข้อ
การถ่ายภาพแบบนี้มีอยู่สองประเภทด้วยกัน: ทางอ้อมกับทางตรง
การถ่ายภาพทางอ้อม
การถ่ายภาพรังสีจากการฉีดสารทึบแสงเข้าข้อทางอ้อมต้องใช้วัตถุที่มีความตัดตรงข้ามกันมาฉีดเข้าสู่กระแสเลือด
การถ่ายภาพทางตรง
การถ่ายภาพรังสีจากการฉีดสารทึบแสงเข้าข้อทางตรงต้องใช้วัตถุที่มีความตัดตรงข้ามกันฉีดเข้าข้อโดยตรง
กระบวนการและวัตถุประสงค์
กระบวนการนี้ทำไปเพื่อตรวจหาอาการผิดปกติ อาการปวด หรืออาการติดขัดในบริเวณข้อต่อต่างๆ ในร่างกาย
วิธีการถ่ายภาพรังสีจากการฉีดสารทึบแสงเข้าข้อ
การถ่ายภาพรังสีจากการฉีดสารทึบแสงเข้าข้อยัง อาจทำได้โดยใช้วิธีการสแกนภาพตัดขวางคอมพิวเตอร์ (computed tomography (CT) scanning) หรือ การสร้างภาพจากการสั่นพ้องของคลื่นแม่เหล็ก (magnetic resonance imaging (MRI))
การเตรียมตัวและขั้นตอนการทำ
ถ้าแพทย์แนะนำว่าคุณควรรับการเอ็กซ์เรย์จากการฉีดสารทึบแสงเข้าข้อ คุณไม่ต้องมีการเตรียมตัวอะไรล่วงหน้า แค่ทำตามขั้นตอนที่บอกไว้แล้วในส่วนแรก
ในบางกรณีคุณอาจจำเป็นต้องอดอาหาร แต่ก็เฉพาะถ้าคุณใช้ยากล่อมประสาท
ความรู้สึกในขณะทำการถ่ายภาพ
การเอ็กซ์เรย์จากการฉีดสารทึบแสงเข้าข้อมักใช้เวลาราว 30 นาที คุณจะรู้สึกจั๊กจี้และอาจรู้สึกปวดแสบถ้าหากมีการใช้ยาชาเพื่อทำให้ข้อต่อบริเวณนั้นไร้ความรู้สึกชั่วขณะ
คุณยังอาจรู้สึกมีแรงดันหรือปวดตอนที่มีการฉีดสารทึบแสงเข้าไปตรงข้อต่อ
เคล็ดลับในการเตรียมตัวก่อนและหลังการเอ็กซ์เรย์: คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และรังสีการแพทย์
การทำเอ็กซ์เรย์เป็นกระบวนการที่สำคัญในการวินิจฉัยและตรวจสอบสภาพของร่างกาย หากคุณต้องรับการเอ็กซ์เรย์หรือกำลังวางแผนให้ลูกของคุณรับการตรวจด้วยเอ็กซ์เรย์ นี่คือเคล็ดลับบางอย่างที่สามารถช่วยให้กระบวนการดังกล่าวเป็นไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น:
1. สอบถามแพทย์หรือเจ้าหน้าที่รังสีการแพทย์
หากคุณมีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับกระบวนการเอ็กซ์เรย์ ควรติดต่อแพทย์หรือเจ้าหน้าที่รังสีการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำและข้อมูลที่ตรงประเด็นเกี่ยวกับการเตรียมตัวและการดูแลหลังการเอ็กซ์เรย์ได้อย่างถูกต้อง
2. วิธีการเตรียมตัวก่อนการเอ็กซ์เรย์
ก่อนที่ลูกของคุณจะรับการเอ็กซ์เรย์ คุณอาจถามกุมารแพทย์เกี่ยวกับขั้นตอนที่ควรทำ เช่น การเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อผ้าที่ไม่มีเหล็ก การถอดเครื่องประดับที่อาจสร้างความรบ กวนในภาพเอ็กซ์เรย์ หรือการเตรียมตัวอื่นๆ ที่จะช่วยให้เอ็กซ์เรย์ทำได้สะดวกและได้ผลลัพธ์ที่ดี
3. การปฏิบัติตัวระหว่างการเอ็กซ์เรย์
เมื่อลูกของคุณเข้าไปในห้องถ่ายเอ็กซ์เรย์ อาจมีเจ้าหน้าที่รังสีการแพทย์ที่จะแนะนำให้คุณปฏิบัติตัวในบางท่าทางเพื่อให้ภาพเอ็กซ์เรย์ที่ชัดเจนและต้องการ คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของพวกเขาอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เอ็กซ์เรย์ผลิตภาพที่ดีและเป็นประโยชน์สูงสุด
4. การดูแลหลังการเอ็กซ์เรย์
หลังจากการเอ็กซ์เรย์เสร็จสิ้น คุณควรสอบถามกุมารแพทย์เกี่ยวกับขั้นตอนที่ควรดำเนินการในการดูแลลูกของคุณ พวกเขาอาจแนะนำให้คุณจ่ายความสนใจและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ลูกของคุณมีสภาพสุขภาพที่ดีหลังจากการรับการเอ็กซ์เรย์
คำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวและดูแลลูกของคุณในกระบวนการเอ็กซ์เรย์ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับคุณและลูกของคุณ
คำเตือนเกี่ยวกับการเข้าเอ็กซ์เรย์ในช่วงครรภ์
เนื้อหา:การรับรังสีเพื่อการตรวจวินิจฉัยที่เกิดจากการเข้าเอ็กซ์เรย์ในช่วงครรภ์อาจมีความปลอดภัยแต่ก็ต้องระมัดระวัง แพทย์หรือเจ้าหน้าที่รังสีการแพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้คุณรออย่างน้อย 6 เดือนหรืออาจถึงหนึ่งปีก่อนที่คุณจะต้องรับการรังสีเพื่อป้องกันความเสี่ยง
เหตุผลที่ต้องรอ:
เข้าเอ็กซ์เรย์บ่อยครั้งอาจเป็นอันตรายต่อการพัฒนาของทารกภายในครรภ์ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรอให้ทารกในครรภ์เติบโตให้เป็นพอดีก่อนที่จะมีการรับรังสี
กรณีฉุกเฉิน:
แม้ว่าการรับรังสีเข้าเอ็กซ์เรย์บ่อยครั้งอาจต้องรอ แต่ในบางกรณีที่เป็นฉุกเฉิน เช่น การเป็นโรคปอดบวมหรือกระดูกหัก อาจจำเป็นต้องรับการรังสีเร็วกว่าเวลาที่แนะนำ (1-2 สัปดาห์) เพื่อการวินิจฉัยหรือการตรวจอื่น ๆ
คุณกำลังดูโพสต์นี้ วิธีการ เตรียมตัวก่อนเข้าเอ็กซ์เรย์