การเลิกราเป็นสิ่งที่เจ็บปวดเสมอ, แต่มันจะยิ่งเจ็บหากคุณสองคนยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกันอยู่. โชคไม่ดีที่บางครั้งคนสองคนที่รักกันมากๆ ก็อาจจะต้องเลิกรากันเพราะปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะทาง, ปัญหาเรื่องการสื่อสาร, ปัญหาเรื่องความไว้ใจ, หรือการวางภาพอนาคตไว้ไม่เหมือนกัน. เชื่อเถอะว่าเมื่อเวลาผ่านไปคุณจะรู้สึกดีขึ้น, แม้ว่าตอนนี้คุณจะมองไม่เห็นเลยว่ามันจะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร. และเนื่องจากว่าคุณยังห่วงใยกันอยู่, ในวันข้างหน้าคุณสองคนก็อาจจะหาทางกลับมาเป็นเพื่อนกันต่อไปได้สักวันหนึ่ง.
เว้นระยะห่างเพื่อฟื้นฟูความรัก
เว้นระยะห่างจากกันสักพัก, คุณสองคนต้องการเวลาเยียวยาหัวใจ. มันยากหากคุณเคยชินกับการพึ่งพาคนรักในทุกๆ เรื่อง. แต่หลังจากเลิกรากันแล้ว, คุณไม่ควรโทรศัพท์หรือส่งข้อความหาเขาจะดีที่สุด. คุณอาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์จึงจะสามารถคุยกับเขาได้โดยไม่เจ็บปวดอีก. แต่ก็ไม่ต้องแปลกใจหากตัวเองต้องใช้เวลานานกว่านั้น, โดยเฉพาะหากคุณสองคนคบกันมานาน.
การเลิกการติดต่อ
พยายามอย่าไปในที่ๆ คุณรู้ว่าแฟนเก่ามักจะไปที่นั่น และการเลิกเป็นเพื่อนหรือเลิกติดตามกันในโซเชียลมีเดียก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี. ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งคู่ตัดสินใจแล้วว่าเลิกกันดีกว่า, การเว้นระยะห่างจากกันจะช่วยให้คุณไม่เกิดความต้องการที่จะกลับไปคบกันอีกหรือกลับมามีอะไรกันเป็นครั้งสุดท้าย. เพราะทั้งสองอย่างนี้มีแต่จะยืดเวลาออกไป. ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าอยากจะเลิกกันจริงๆ หรือเปล่า, การห่างกันสักพักจะช่วยให้คุณทั้งคู่เข้าใจควา มรู้สึกของตัวเองและรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร.
การฟื้นฟูจากความเศร้า
เศร้าให้เต็มที่สัก 2-3 วัน, บอกตัวเองว่าเศร้าได้ ไม่เป็นไร. เมื่อคุณกำลังอกหัก, คุณต้องปล่อยให้ตัวเองได้ทำความเข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้น และสิ่งนี้ยิ่งจำเป็นมากหากคุณยังห่วงใยเขาอยู่.
การจัดการกับความเศร้า

อย่าพยายามทำเหมือนว่าฉันไม่เป็นอะไรและต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้. ฟังเพลงอกหัก อยากร้องไห้ก็ร้อง โทรให้เพื่อนมาหา อะไรก็ได้ที่ตรงกับความรู้สึกที่แท้จริงที่คุณกำลังเผชิญอยู่. เป็นเรื่องปกติหากคุณต้องการเวลาพักระหว่างที่อกหัก. เพราะฉะนั้นอย่าฝืนตัวเองถ้ารู้สึกว่าต้องลดชั่วโมงการทำงานหรือการเรียน. หลังจากผ่านไป 2-3 วัน, ค่อยๆ เริ่มกลับมาทำกิจวัตรต่างๆ ให้ดีเหมือนเดิม.
เลือกทางออกที่ดี
ถ้าคุณเศร้านานกว่านี้ก็ไม่เป็นไร, แต่ถ้าไม่ไปต่อคุณจะไม่รู้สึกดีขึ้น. อย่ากลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเองด้วยยาเสพติด, แอลกอฮอล์, อาหารขยะ, หรือความสัมพันธ์คั่นเวลา. เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ ได้ช่วยให้คุณเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง และยังอาจทำให้คุณก้าวต่อไปได้ยากในระยะยาว.
ดูแลตัวเองในช่วงอกหัก
ดูแลตัวเอง ดูแลร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงเท่าที่จะทำได้. ช่วงอกหักวันสองวันแรกถ้าคุณจะไม่อยากลุกขึ้นมาจากเตียงเลยก็ไม่เป็นไร แต่หลังจากนั้นหากคุณเริ่มดูแลตัวเอง คุณจะรู้สึกดีขึ้นมาก.
การดูแลร่างกาย
พยายามทำกิจวัตรก่อนเข้านอนตามปกติ ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกดี. คุณจะรู้สึกเข้มแข็งและมีพลังมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณจัดการกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงอกหักได้ง่ายขึ้นด้วย.
การดูแลจิตใจ
ทำกิจกรรมที่ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและพิเศษ เช่น ไปนวด แช่น้ำในอ่าง หรือไปร้านอาหารร้านโปรดกับเพื่อนที่ให้กำลังคุณ. ลองกล่าวคำพูดยืนยันเชิงบวกกับตัวเองดังๆ เช่น “ฉันรักตัวเองและฉันดีพอ“. การใช้เวลาท่ามกลางธรรมชาติก็เป็นวิธีที่ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้. เพราะฉะนั้นลองออกไปเดินเล่น เดินทางไกล หรือปิกนิกกลางแจ้งดูบ้าง.
จำไว้ว่าการ ที่คุณยังห่วงใยแฟนเก่าไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเลิกห่วงใยตัวเอง!
ความสำคัญของการคุยกับคนในช่วงเสียสัมพันธ์
คุยกับคนที่คุณห่วงใย ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนและคนในครอบครัวที่เป็นกำลังใจให้คุณ. คุณกำลังเผชิญกับการสูญเสียความสัมพันธ์ที่สำคัญไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องผ่านเรื่องนี้ตามลำพัง.
รับคำแนะนำและการสนับสนุน
เพราะเป็นไปได้ว่าคุณจะมีเพื่อน คนในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานที่เต็มใจรับฟังคุณระบาย เล่าให้เขาฟังว่าทำไมคุณสองคนถึงเข้ากันไม่ได้ แต่ก็พูดอย่างตรงไปตรงมาด้วยว่าคุณยังห่วงใยกันและกันอยู่. วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้คุณได้ทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวเองแล้ว เพื่อนๆ ยังอาจช่วยให้คุณได้ปรับมุมมองที่มีต่อสถานการณ์นี้ด้วย.
การเขียนความรู้สึก
ถ้าคุณไม่สบายใจที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครฟัง ลองเขียนความรู้สึกของตัวเองลงในสมุดบันทึก. มันเป็นวิธีการทำความเข้าใจอารมณ์ของตัวเองอย่างเป็นส่วนตัว. คุณจะได้ไม่รู้สึกเก็บกด ถ้าคุณไม่รู้จะคุยกับใคร ลองเข้าร่วม กลุ่มสนับสนุนที่อยู่ใกล้บ้านหรือขอความช่วยเหลือจากนักจิตบำบัด.
เติมเต็มชีวิตด้วยความสุขและสิ่งที่คุณชื่นชอบ
ยุ่งเข้าไว้ ง่วนอยู่กับสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข. หลังผ่านการเลิกรา บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกว่าตัวเองมีเวลาเหลือเยอะ แต่ก็อย่ามัวนั่งคิดถึงแฟนเก่าไปเรื่อยเปื่อยนะ!
เติมเต็มความชื่นชอบ
ตอนนี้ได้เวลาทำในสิ่งที่คุณชอบมากๆ แล้ว. ดูหนังที่คุณอยากดูมาตั้งนาน อ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม ไปชอปปิง เข้าเมือง ลงเรียนคลาสใหม่ๆ ไม่มีอะไรมาจำกัดคุณได้ทั้งนั้น. ออกไปสนุกเลย!
พร้อมเปิดใจกับโลกใหม่
เมื่อไหร่ที่คุณพร้อม ให้เปิดใจออกเดตกับคนใหม่ๆ บ้าง. ถึงคุณจะยังไม่พร้อมคบใครจริงจังอีกครั้ง มันก็ช่วยให้คุณได้เห็นว่าโลกข้างนอกมีอะไรบ้าง.
ค้นหาข้อดีของการเป็นโสด
มองหาข้อดีของการอยู่เป็นโสด อ้าแขนรับอิสรภาพ. แหงล่ะว่าคุณยังรักแฟนเก่าอยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสนุกกับอิสรภาพที่มาพร้อมกับการไม่ผูกมัดไม่ได้.
รายการสิ่งที่คุณสามารถทำได้เมื่อโสด
ลองเขียนรายการสิ่งต่างๆ ที่ตอนมีแฟนคุณทำไม่ได้ แต่ตอนนี้คุณทำได้แล้ว และหยิบออกมาอ่านเวลาที่รู้สึกเศร้า เช่น เมื่อคุณโสด คุณสามารถ:
- กินอะไรก็ได้: เลือกอาหารที่คุณชอบและอยากทาน
- เข้านอนและตื่นนอนได้ตามตารางเวลาของตัวเอง: ไม่ต้องเป็นไปตามเวลาของคู่รัก
- เลือกรายการและหนังที่อยากดูได้: ดูหนังเรื่องที่คุณสนใจและไม่ต้องต่อรองกับใคร
- ท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ: เป็นเจ้าของการเดินทางแบบเต็มอิสระ
- ไปเจอเพื่อนและครอบครัวตอนไหนก็ได้: ไม่ต้องจัดตารางตามคู่รัก
- รกรุงรังหรือเป็นระเบียบแค่ไหนก็ได้ตามใจ: ไม่ต้องต่อรองกับคนอื่นในการตัดสินใจ
บทเรียนที่ได้จากการเลิกรา
มองหาบทเรียนที่ได้จากการเลิกรา ลองนึกดูว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คุณจะเปลี่ยนแปลงอะไร. คุณสองคนอาจจะมีค่านิยมต่างกัน มีสิ่งที่ต้องการในชีวิตไม่เหมือนกัน หรือไม่สามารถโต้แย้งกันได้อย่างมีวุฒิภาวะ เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ผิดพลาดคืออะไร ลองคิดดูว่าหากย้อนเวลากลับไปเริ่มใหม่ได้ คุณจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร บทเรียนเหล่านี้อาจเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยให้คุณเยียวยาตัวเองและก้าวต่อไปได้.
การนึกภาพเป็นตัวเอง
ลองสุมมติว่าตัวเองเป็นคนรักบ้าง คุณคิดว่าเขาน่าจะอยากเห็นอะไรในตัวคุณ เช่น ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เขาก็อาจจะแค่อยากให้คุณรับฟังเขา ถ้าปัญหานั้นเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถประนีประนอมได้ เช่น คนใดคนหนึ่งอยากมีลูกแต่อีกคนไม่อยาก หรือคนใดคนหนึ่งคิดว่าเงินและฐานะเป็นสิ่งสำคัญ แต่อีกคนให้คุณค่ากับเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันในครอบครัว คุณก็อาจจะใช้บทเรียนนี้ในการช่วยให้ตัวเองเลือกคนรักที่เข้ากันได้ ดีกว่านี้ในครั้งต่อไป.
การค้นคว้าและการพัฒนาตัวเอง
ลองอ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง ฟังพอดแคสต์เรื่องการเยียวยาตัวเองจากอาการอกหัก หรือพูดคุยกับนักจิตบำบัด ทุกวิธีที่ว่ามานี้สามารถช่วยให้คุณเข้าใจสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากความสัมพันธ์อย่างถ่องแท้.
ค้นพบคุณสมบัติที่ดีของตัวเอง
รู้ว่าคุณสมบัติที่ดีของตัวเองคืออะไร อย่าไปสนใจความรู้สึกสงสัยในตัวเองที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการเลิกรา. เมื่อความสัมพันธ์สิ้นสุดลง เป็นเรื่องปกติที่คุณจะคิดถึงแต่ข้อด้อยของตัวเอง แต่พยายามอย่าไปฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหัว เพราะไม่ว่าอย่างไรแฟนเก่าเขาก็ห่วงใยคุณจริงๆ เพียงแต่ว่าคุณสองคนเข้ากันไม่ได้ และพยายามสร้างนิสัยมองตัวเองในแง่ดีแทนการคิดถึงตัวเองในทางลบ เตือนตัวเองว่าคุณสมควรได้รับการปฏิบัติอย่างดี และถ้าแฟนเก่าของคุณเขาไม่สามารถทำให้คุณได้ เขาก็คงไม่ใช่คนที่เหมาะกับคุณ เช่น ถ้าคุณจับได้ว่าตัวเองคิดว่า “ฉันจะต้องอยู่คนเดียวตลอดไป” ให้เปลี่ยนมาคิดว่า “ฉันทั้งตลกและฉลาด เดี๋ยววันนึงฉันก็เจอคนที่ใช่” แทน ถ้าจำเป็นคุณอาจจะเขียนรายการคุณสมบัติที่ดีที่สุดในตัวเองออกมาเพื่อเอาไว้อ่านเวลาที่รู้สึกไม่มั่นใจ.
เดินทางต่อไปและใช้ชีวิตตามปกติ
ระหว่างก้าวต่อไปข้างหน้า ให้แบ่งเวลาในแต่ละวันสำหรับเศร้าโดยเฉพาะ หลังจากผ่านไป 2-3 สัปดาห์ คุณต้องกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ. คุณอาจจะยังต่อสู้กับความรู้สึกโศกเศร้าที่ต้องเลิกรา แต่คุณจำเป็นต้องหาทางกลับมาดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้ วิธีหนึ่งก็คือการแบ่งเวลาในแต่ละวันเพื่อให้อารมณ์ถาโถมเข้าหาคุณได้อย่างเต็มที่ เช่น คุณอาจจะร้องไห้ใต้ฝักบัววันละ 15 นาที แต่เมื่อคุณเดินออกมาปุ๊บ เชิดหน้าเข้าไว้และดำเนินชีวิตในวันนั้นต่อไปให้ได้ วิธีนี้ทำให้คุณยังคงได้ทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง แต่คุณก็ไม่ได้ปล่อยให้การเลิกรามามีผลกับงาน หน้าที่ความเป็นพ่อแม่ หรือความรับผิดชอบอื่นๆ.
การกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง
เรียนรู้ที่จะกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง…ในที่สุด ติดต่อเขาหากคุณคิดว่าคุณสามารถเป็นเพื่อนทั่วไปกับเขาได้. คุณอาจจะต้องไม่เจอหน้าเขาเลยหลายเดือนกว่าจะรู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งพอแล้ว แต่ถ้าคุณยังคงรักเขาอยู่จริงๆ คุณอาจจะตัดสินใจว่าการพยายามรักษามิตรภาพกับเขาไว้เป็นสิ่งที่คุ้มค่า รอจนกว่าคุณจะรู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งพอ และพูดคุยกับเขาอย่างเปิดใจว่าเขาเห็นด้วยกับความคิดนี้ไหม เมื่อเวลาผ่านไปนานพอ คุณอาจจะส่งข้อความหากันเป็นครั้งคราวหรือพูดคุยกับเขาอย่างเป็นมิตรในที่สาธารณะได้โดยไม่รู้สึกแปลกๆ แต่อย่าคาดหวังว่าเขาจะเป็นเพื่อนสนิทของคุณ หากคุณไม่สามารถอยู่ร่วมกันในฐานะคนรักได้ การเว้นช่องว่างระหว่างกันสักเล็กน้อยเอาไว้เสมออาจเป็นสิ่งที่ดีกว่า.
การกลับมาคบกันใหม่: การปรับเปลี่ยนและการเยียวยาหัวใจ
กลับมาคบกันใหม่หากอะไรๆ เปลี่ยนไป คุณต้องรู้แน่ชัดว่าอะไรจะต้องเปลี่ยนไปเมื่อกลับมาคบกัน. แม้ว่าคุณสองคนจะยึดมั่นในความรู้สึกที่มีต่อกันมาอย่างยาวนาน แต่ความสัมพันธ์จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นก็ต่อเมื่อคุณสามารถแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดเมื่อตอนคบกันครั้งแรกได้. เช่น ถ้าคุณเลิกกันเพราะคนนึงอยากมีลูกแต่อีกคนไม่อยาก คุณก็ควรกลับมาคบกันต่อเมื่อคนใดคนหนึ่งเปลี่ยนใจอย่างแน่นอนแล้วเท่านั้น. ถ้าคุณเลิกกันเพราะว่าแฟนเก่าไม่พร้อมที่จะผูกมัด ครั้งนี้เขาก็ต้องพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าเขาพร้อมที่จะจริงจังกับคุณแล้ว.
วิธีการปรับตัวและเยียวยาหัวใจ

เมื่อคุณตัดสินใจที่จะกลับมาคบกันใหม่กันอีกครั้ง คุณจะต้องระวังและปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้น. การเปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจจำเป็นเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีปัญหาหรือข้อผิดพลาดในอดีตที่ยังคงมีผลกระทบต ่อความสัมพันธ์ของคุณ.
การเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
ศึกษาและรับรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ เน้นที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดและปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อป้องกันให้ไม่เกิดซ้ำในอนาคต. การเรียนรู้จากประสบการณ์เก่าจะช่วยให้คุณมีแนวทางในการจัดการกับสถานการณ์ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น.
สร้างความเข้าใจและความโปร่งใส
ความเข้าใจและความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการกลับมาคบกันใหม่ สอดคล้องกับความต้องการและความคาดหวังของกันและกัน. ให้ความสำคัญกับการพูดคุยเปิดเผยความคิดเห็น ฟังกันอย่างใจกลางและเคารพกันเสมอ. ความเข้าใจและความโปร่งใสจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงและยั่งยืน.
วันหวังใจและคาดหวัง
เมื่อคุณกำลังกลับมาคบกันใหม่กัน ความหวังและคาดหวังจะเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณตัดสินใจที่จะก้าวข้ามอุปสรรคและพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างความสุขและความสำเร็จในความสัมพัน ธ์. คาดหวังว่าคนที่คุณรักจะเป็นคนที่พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่และทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของคุณ.
คุณกำลังดูโพสต์นี้ วิธีการ เยียวยาหัวใจเมื่ออกหักทั้งที่ยังรักกันอยู่