เปิด Google Chrome
Google Chrome เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่มีไอคอนกลมๆ สีแดง เหลือง เขียว และฟ้า
ตรวจสอบโหมดเต็มจอ
ก่อนที่จะเปิด Google Chrome ให้ตรวจสอบก่อนว่าคุณไม่ได้ใช้โหมดเต็มจอ (full-screen) เพราะเครื่องมือเช่น toolbar อาจหายไปได้ ขั้นตอนที่ต้องทำเพื่อตรวจสอบโหมดเต็มจอนั้นจะแตกต่างกันไปตามระบบปฏิบัติการ
สำหรับ Windows
กดปุ่ม F11 (หรือ Fn+F11) เพื่อออกจากโหมดเต็มจอ
สำหรับ Mac

เลื่อนเมาส์ไปที่ด้านบนของหน้าจอ แล้วคลิกวงกลมสีเขียวที่มุมซ้ายบนของหน้าจอตอนที่โปรแกรม Google Chrome โผล่ขึ้นมา
เปิดเมนู Chrome
คลิกที่สัญลักษณ์ ⋮ ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง Google Chrome เพื่อขยายเมนู
เปิดเมนู More tools
เลือก More tools ในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดเมนูเพิ่มเติม
เปิดหน้า Extensions
คลิก Extensions ในเมนูใหม่ที่แสดงออกมา เพื่อเปิดหน้า Extensions
เพิ่มเครื่องมือใน Chrome
Chrome สามารถใช้ extensions เพื่อเพิ่มเครื่องมือเช่น toolbar โดยเปิดใช้งานจากหน้า Extensions
ค้นหาเครื่องมือที่ต้องการ
เลื่อนลงไปยังเครื่องมือที่คุณต้อง การเพิ่มใน Google Chrome
ถ้าไม่พบเครื่องมือที่ต้องการ
ในกรณีที่คุณไม่พบเครื่องมือที่ต้องการ คุณสามารถติดตั้ง extension เพื่อเพิ่มเครื่องมือนั้นกลับมา
เปิดใช้งานเครื่องมือ
ติ๊กเครื่องหมาย “Enabled” ทางขวาของ extension เครื่องมือที่คุณต้องการใช้งาน และติ๊กช่อง “Allow in incognito” ด้านล่างของเครื่องมือถ้าคุณต้องการใช้งานเครื่องมือนั้นในโหมด incognito
เปิดใช้งานแถบบุ๊กมาร์ก
หากคุณได้เปิดใช้งานเครื่องมือแล้วแต่ยังไม่ได้ผล อาจจะต้องไปเปิดใช้งานแถบบุ๊กมาร์ก
คลิกที่สัญลักษณ์ ⋮
เลือก Bookmarks
คลิกที่ S bookmarks bar
เพื่อเปิดใช้งานแถบบุ๊กมาร์ก
สแกนไวรัส
หากคุณยังไม่สามารถใช้งานเครื่องมือได้ตามปกติ อาจมีความเป็นไปได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณมีไวรัส คุณสามารถใช้โปรแกรม antivirus เพื่อสแกนหาไวรัสในคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบว่าเป็นต้นเหตุหรือไม่ หากพบไวรัสจริงโปรแกรมจะทำการกำจัดไวรัสเพื่อแก้ไขปัญหาให้คุณ
หมายเหตุ:ข้อมูลที่ให้เป็นไปตามความรู้ของเรา ณ เวลาที่ เขียน หากมีการอัปเดตหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายหลัง ควรตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความแม่นยำและเป็นปัจจุบัน
Safari: เปิดและปรับแต่ง Toolbar ใน Mac
เพื่อเปิดและปรับแต่ง Toolbar ใน Safari บน Mac ของคุณ กรุณาทำตามขั้นตอนดังนี้:
1. เปิด Safari
เริ่มต้นโดยคลิกที่ไอคอน Safari ที่อยู่ใน Dock ของ Mac ซึ่งมีรูปเข็มทิศสีฟ้า
2. ตรวจสอบโหมดหน้าต่าง
ตรวจสอบว่า Safari กำลังทำงานในโหมด window (หน้าต่างธรรมดา) และไม่ใช่โหมด full-screen (เต็มจอ)
2.1 ถ้า Safari กำลังทำงานในโหมด full-screen:
เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ด้านบนของหน้าต่าง และคลิกที่ปุ่มสีเขียวที่อยู่ด้านซ้ายบนของหน้าจอเมื่อมันปรากฏขึ้น
3. คลิกที่เมนู View
คลิกที่เมนู View ที่ตั้งอยู่ด้านบนของหน้าจอ จากนั้นเมนูจะขยายลงมาแสดงตัวเลือกเพิ่มเติม
4. เลือกแสดง Toolbar
คลิกที่ตัวเลือก S Toolbar ที่ตั้งอยู่ทางด้านล่างของเมนู View เพื่อแสดง Toolbar อีกครั้ง
คุณยังสามารถเลือกแสดง S Path Bar และ S Tab Bar ถ้าคุณพบว่าช่องพิมพ์ URL หรือแท็บหายไป
หากแทนที่แสดงว่า Hide Toolbar ให้คลิกที่ Hide Toolbar และตามด้วยการคลิกที่ S Toolbar เพื่อแสดง Toolbar กลับมาตามเดิม
5. ปรับแต่ง Toolbar
เมื่อแสดง Toolbar อย ู่แล้ว คุณสามารถปรับแต่งตามต้องการได้ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้:
5.1. คลิกที่เมนู View
คลิกที่เมนู View
5.2. คลิกที่ Customize Toolbar…
คลิกที่ตัวเลือก Customize Toolbar…
5.3. ลากและวางรายการที่ต้องการ
เลือกและลากองค์ประกอบที่คุณต้องการใส่ใน Toolbar จากเมนู แล้ววางในตำแหน่งที่คุณต้องการ
6. สแกนไวรัส
หาก Toolbar ยังคงหายไป แม้ว่าคุณจะเปิดใช้งานใหม่ อาจเกิดเป็นเพราะมีมัลแวร์ซ่อน Toolbar เมื่อเปิด Safari ขึ้นมา คุณสามารถทำตามขั้นตอนดังนี้เพื่อสแกนไวรัสและกำจัดมัลแวร์:
1. สแกนไวรัสใช้โปรแกรมสแกนไวรัสที่เชื่อถือได้ในเครื่อง Mac เพื่อสแกนและตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของคุณ
2. แก้ปัญหาหลังจากที่สแกนไวรัสแล้ว คุณสามารถแก้ปัญหาโดยการเปิด Safari อีกครั้งและดูว่า Toolbar ปรากฏอย่างถูกต้อง
โดยปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้น คุณจะสามารถเปิดและปรับแต่ง Toolbar ใน Safari บน Mac ได้โดยง่ายและสะดวก
วิธีเปิดและปรับแต่ง Toolbar ใน Firefox

เพื่อเปิดและปรับแต่ง Toolbar ใน Firefox ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:
เปิด Firefox
คลิกที่ไอคอนของแอพ Firefox ที่เป็นลูกโลกกับหมาจิ้งจอกสีส้มบนพื้นน้ำเงินเพื่อเปิดโปรแกรม Firefox
ตรวจสอบโหมดเต็มจอ
ก่อนที่จะดำเนินการเปิดและปรับแต่ง Toolbar ใน Firefox ตรวจสอบก่อนว่าไม่ใช้เบราว์เซอร์แบบเต็มจอ (full-screen) อยู่
- สำหรับ Windows – กด F11 (หรือ Fn+F11) เพื่อออกจากโหมดเต็มจอ
- สำหรับ Mac – เลื่อนเมาส์ไปที่ด้านบนของหน้าจอ แล้วคลิกวงกลมสีเขียวที่มุมซ้ายบนของหน้าจอตอนที่โผล่มา แล้วคลิก ☰ ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง แล้วเลือก “Add-ons”
เปิดหน้า Add-Ons
- คลิก ☰ ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง Firefox เพื่อเปิดเมนู
- คลิก “Add-ons” ที่เป็นตัวเลือกในเมนูที่ขยายลงมา
เลือกและเปิดใช้ Toolbar Extension
- คลิกแท็บ “Extensions” ที่อยู่ด้านซ้ายบนของหน้า
- เลื่อนขึ้นหรือลงจนเจอ extension ขอ ง toolbar ที่ต้องการแสดง
- คลิก “Enable” ทางขวาของชื่อ extension
รีสตาร์ท Firefox
คลิก “Restart now” เมื่อมีการแจ้งเตือนขึ้น เมื่อ Firefox รีสตาร์ทเสร็จสิ้น toolbar จะกลับมาใช้งานตามปกติ
เปิดใช้งาน Default Toolbars
หากเปิดใช้งาน add-on toolbar แล้วยังไม่ได้ผล คุณสามารถเปิดใช้งาน default toolbars ได้ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:
- คลิก “View” (สำหรับ Windows ให้กด Alt ก่อน)
- เลือก “Toolbars”
- คลิก toolbar ที่ต้องการเปิดใช้ (เช่น “Bookmarks Toolbar”)
ปรับแต่ง Toolbar
หากคุณต้องการปรับแต่ง Toolbar ใน Firefox ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- คลิก ☰
- คลิก “Customize…”
- เช็คให้แน่ใจว่าเลือก “Toolbars” ในเมนูที่ขยายลงมาท้ายหน้าแล้ว
- คลิกแล้วลากตัวเลือก toolbar จากกลางหน้าไปที่ด้านขวาบนของหน้าต่าง
ตรวจสอบไวรัส
หากคุณยังไม่สามารถใช้งาน toolbars ได้ตามปกติ มีความเป็นไปได้ว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีไวรัส คุณสามารถลองใช้โปรแกรม antivirus เพื่อสแกนหาไวรัสในคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบว่าเป็นต้นเหตุหรือไม่ เนื่องจากถ้ามีไวรัส จริง โปรแกรมจะกำจัดไวรัสให้และรับรองว่าปัญหาจะถูกแก้ไข
Microsoft Edge
เพื่อเปิด Microsoft Edge ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้:
1. เปิด Microsoft Edge
คลิกที่ไอคอนของแอพฯ ที่มีรูปตัว “e” สีน้ำเงิน หรือตัว “e” สีขาวบนพื้นฟ้า
2. เข้าสู่เมนู Extensions
คลิกที่เครื่องหมาย “⋯” ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง เมนูจะขยายลงมา
คลิกที่ “Extensions” ที่อยู่ด้านล่างของเมนูที่ขยายลงมา
3. เลือก toolbar
เลื่อนลงไปจนเจอ toolbar ที่ต้องการใช้ แล้วคลิกเพื่อเลือก toolbar นั้น
คลิกที่สวิตช์สีขาวใต้ชื่อ toolbar เพื่อเปิดใช้งาน toolbar
การคลิกสวิตช์นี้จะเปิดใช้งาน toolbar และสวิตช์ด้านล่างที่มีชื่อว่า “S button next to the address bar”
4. เปิดใช้งาน toolbars อื่น
หากต้องการเปิดใช้งาน toolbars อื่นที่หายไปหรือถูกซ่อนไว้ ให้ทำซ้ำตามขั้นตอนดังนี้:
คลิกลูกศร “Back” ที่ด้านซ้ายบนของเมนู แล้วเลือก service อื่น
5. ตรวจสอบคอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาไวรัส
หากยังไม่สามารถใช้งาน toolbars ได้ตามปกติ อาจเกิดจากคอมพิวเตอร์ของคุณมีไวรัส
คุณสามารถลองใช้โปรแกรม antivirus เพื่อสแกนคอมพิว เตอร์เพื่อค้นหาไวรัส และตรวจสอบว่าไวรัสเป็นต้นเหตุหรือไม่
หากมีไวรัสจริง โปรแกรม antivirus จะกำจัดไวรัสเพื่อแก้ไขปัญหานั้น
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดนี้ คุณจะได้ใช้งาน toolbar และแก้ไขปัญหาที่พบแล้ว
วิธีเปิดและใช้งาน Internet Explorer
เพื่อเริ่มต้นใช้งาน Internet Explorer ให้คลิกที่ไอคอนที่มีตัวอักษร “e” สีฟ้าอ่อน และมีแถบเหลืองคาดอยู่
เช็คโหมดการแสดงหน้าจอ
ก่อนที่จะใช้งาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ใช้โหมดเต็มจออยู่ หากใช้โหมดเต็มจอ ให้กด F11 (หรือ Fn+F11) เพื่อกลับไปสู่มุมมองปกติ
การตั้งค่า
1. คลิกที่ไอคอนรูปฟันเฟืองที่ด้านขวาบนของหน้าต่าง Internet Explorer และเมนูจะขยายลงมา
2. คลิกที่ “Manage add-ons” ที่ด้านบนของเมนูที่ขยายลงมาเพื่อเปิดหน้าต่างใหม่
3. คลิกที่แท็บ “Toolbars and Extensions” ทางด้านซ้ายของหน้าต่าง
4. ค้นหา Toolbar ที่คุณต้องการเปิดใช้งาน แล้วเลื่อนไปตามรายการ Toolbars จนเจอที่ต้องการ
5. เลือก Toolbar ที่คุณต้องการใช้งาน
6. คลิกที่ “Enable” ที่ด้านขวาล่างของหน้าต่างเพื่อเปิด Toolbar นั้นขึ้นมา
7. ทำซ้ำขั้นตอนนี้สำหรับ Toolbars ที่คุณต้องการเปิดใช้งานทั้งหมด
8. คลิกที่ “Close” ที่อยู่ด้านขวาล่างของหน้าต่าง และหน้าต่าง Add-Ons จะปิดไป
เปิ ดใช้งาน Toolbar ดีฟอลต์
1. กดปุ่ม Alt ที่คีย์บอร์ด
2. คลิกที่ “View” ที่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง
3. เลือก “Toolbars”
4. ติ๊กเลือก “Menu bar”
5. ทำซ้ำขั้นตอนเดียวกันสำหรับ Toolbars อื่นๆ
การสแกนไวรัส
หากคุณยังไม่สามารถใช้งาน Toolbars ตามปกติได้ อาจมีความเป็นไปได้ว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีไวรัส ให้ลองใช้โปรแกรม antivirus เพื่อสแกนหาไวรัสในคอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจสอบว่ามีไวรัสเป็นต้นเหตุหรือไม่ หากมีไวรัสจริง โปรแกรมจะกำจัดให้และแก้ไขปัญหาทั้งหมด
คุณกำลังดูโพสต์นี้ วิธีการ แสดงแถบเครื่องมือ (Toolbar) ของเบราว์เซอร์ที่ถูกซ่อน