iPhone เป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ที่สามารถใช้เพิ่มไฟล์เพลงในเครื่องได้อย่างง่ายดาย แต่บางครั้งอาจจะยุ่งยากเมื่อไม่อยากใช้ iTunes media player ของ Apple เพื่อ sync ไฟล์ media กับ iPhone เนื่องจาก iOS มีการอัพเดทเป็นระยะๆ ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถใช้ช่องทางอื่นๆ นอกเหนือจาก iTunes ได้ นอกจากนี้ คุณยังไม่สามารถดาวน์โหลดไฟล์ MP3 จากเว็บด้วย Safari ได้เช่นกัน
วันนี้เรามาแนะนำวิธีการเพิ่มไฟล์เพลงลงใน iPhone โดยไม่ต้องใช้ iTunes เพื่อให้คุณได้ทำได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถเพิ่มไฟล์เพลงโดยตรงผ่าน music player อื่นๆ ที่สามารถทำการ sync ไฟล์ media กับ iPhone ได้ เช่น Windows Media Player, VLC, หรือ Foobar2000 โดยใช้ส่วนเสริมและโปรแกรมต่างๆ ที่เข้ากันได้กับ iPhone อีกทั้งยังสามารถสร้าง playlist และจัดการไฟล์เพลงใน iPhone ได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องใช้ iTunes อีกต่อไป
วิธีการเพิ่มเพลงลงใน iPhone ด้วย Dropbox
ขั้นตอนที่ 1: สมัครใช้ Dropbox และอัพโหลดเพลง
คุณสามารถใช้ Dropbox เพื่อเพิ่มเพลงลงใน iPhone ได้อย่างง่ายดาย โดยคุณต้องสมัครใช้ Dropbox และอัพโหลดเพลงเข้า Dropbox ก่อนเพื่อเปิดฟังผ่านแอพ Dropbox ใน iPhone ของคุณ
- สมัครใช้ Dropbox: คุณสามารถสมัครใช้ Dropbox ได้ฟรีโดยจะได้พื้นที่เก็บข้อมูล 2 GB แต่ถ้าไฟล์เพลงคุณเยอะกว่านั้น ก็ต้องเสียเงินให้ได้พื้นที่เพิ่มหรือเปลี่ยนไปใช้วิธีการอื่นในบทความนี้แทน
- อัพโหลดเพลง: คุณต้องติดตั้งโปรแกรม Dropbox บนคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างโฟลเดอร์ Dropbox ไว้ที่หน้า desktop แล้วนำไฟล์เพลงทั้งหมดที่ต้องการเซฟลง iPhone ใส่ไว้ในโฟลเดอร์ Dropbox โดย Dropbox รองรับไฟล์ทั้ง .mp3, .aiff, .m4a และ .wav
ขั้นตอนที่ 2: เปิดฟังผ่านแอพ Dropbox ใน iPhone

เมื่ออัพโหลดไฟล์เพลงเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเปิดฟังได้โดยทำตามขั้นตอนดังนี้:
- ดาวน์โหลดแอพ Dropbox บน iPhone: คุณสามารถดาวน์โหลดแอพ Dropbox ฟรีจาก App Store ได้
วิธีการเซฟไฟล์เพลงลง iPhone โดยไม่ต้องใช้ iTunes
ใช้ Dropbox
Dropbox เป็นแอพพลิเคชันเก็บข้อมูลออนไลน์ที่สามารถใช้สำหรับอัพโหลดไฟล์เพลงลง iPhone ได้ สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนดังนี้:
1. สมัครใช้ Dropbox
คุณสามารถสมัครใช้ Dropbox ได้ฟรี และมีพื้นที่เก็บข้อมูล 2 GB หากต้องการพื้นที่เพิ่มให้เสียเงิน หรือใช้วิธีการอื่นในบทความนี้แทน
2. ติดตั้ง Dropbox ในคอม
คุณสามารถติดตั้ง Dropbox ในคอมเพื่อสร้างโฟลเดอร์ Dropbox ไว้ที่หน้า desktop และอัพโหลดไฟล์เพลงที่จะเซฟลง iPhone ใส่ไว้ในโฟลเดอร์ Dropbox
3. อัพโหลดไฟล์เพลงลง Dropbox
คุณสามารถอัพโหลดไฟล์เพลงที่ต้องการเซฟลง iPhone เข้า Dropbox โดยใช้ระบบอัพโหลดของ Dropbox เพื่อทำการเข้าถึงไฟล์เพลงที่อยู่ในโฟลเดอร์ Dropbox ได้ง่ายๆ
4. ดาวน์โหลดแอพ Dropbox ลง iPhone
คุณสามารถดาวน์โหลดแอพ Dropbox ฟรีจาก App Store และล็อกอินเข้า Dropbox แล้วเลือกเพลงที่ต้องการฟังได้เลย
ใช้ Google Play Music
Google Play Music เป็นแอพพลิเคชันของ Google ที่ช่วยให้คุณสามารถเซฟไฟล์เพลงลง iPhone ได้ และมีวิ
วิธีใช้ Google Play Music เพื่อฟังเพลงใน iPhone และดาวน์โหลดเพลงลงเครื่อง
ดาวน์โหลดแอพ Google Play Music และล็อกอิน
Google Play Music เป็นแอพฟรีที่ดาวน์โหลดได้จาก App Store ของ iPhone ให้ติดตั้งแล้วล็อกอินด้วยบัญชี Google ของคุณ คุณต้องรอสักครู่จนกว่า library จะโหลดครั้งแรก
ฟังเพลงผ่านแอพ Google Play Music
หลังจาก library โหลดขึ้นมาแล้ว คุณสามารถค้นหาศิลปินและอัลบั้มจากในรายชื่อได้ แล้วเปิดเพลงฟังได้เลย หรือสร้าง playlist เหมือนในแอพ Music ของ iPhone
ดาวน์โหลดเพลงลง iPhone ไว้ฟังแบบ offline
Google Play Music จะ stream ไฟล์เพลงผ่านเน็ต แต่คุณสามารถเซฟเพลงไว้ฟังใน iPhone แบบไม่ต้องต่อเน็ตได้ด้วย
- แตะ ⋮ ข้างเพลง, อัลบั้ม, หรือ playlist ที่จะเซฟลง iPhone
- เลือก “Download” เพื่อเริ่มดาวน์โหลดเพลงลงเครื่อง
- แตะปุ่ม ☰ แล้วเปิดสวิตช์ “Downloaded Only” เพื่อดูเฉพาะเพลงที่อยู่ใน iPhone
วิธีใช้ MediaMonkey ซิงค์เพลงกับ iPhone
ดาวน์โหลดและติดตั้ง MediaMonkey
MediaMonkey เป็นโปรแกรม music player สำหรับฟังและจัดการไฟล์เพลงที่คนนิยมใช้กันใน Windows ซึ่งคุณสามารถใช้ sync เพลงกับ iPhone ได้โดยปรับแต่ง settings บางอย่าง
การตั้งค่า MediaMonkey
MediaMonkey จะ sync ได้เฉพาะไฟล์เพลงเท่านั้น แต่จะ sync วิดีโอและรูปภาพไม่ได้ ดังนั้น คุณควรตั้งค่า MediaMonkey เพื่อจัดการ sync ไฟล์เพลงเท่านั้น และปล่อยให้ iTunes จัดการเรื่องอื่น ๆ
การดาวน์โหลด iTunes
ถ้าคุณต้องการ sync ข้อมูลใน iPhone กับ MediaMonkey โดยไม่ต้องใช้ iTunes คุณจะต้องดาวน์โหลดและติดตั้งบริการของ iTunes เพื่อให้เชื่อมต่อ iPhone กับ MediaMonkey ได้
ดาวน์โหลด iTunes
คุณสามารถดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง iTunes จาก apple.com/itunes/download/ แล้วเปลี่ยนชื่อ iTunesSetup.exe (หรือ iTunes64Setup.exe) เป็น iTunesSetup.zip (หรือ iTunes64Setup.zip) จากนั้นดับเบิลคลิกเพื่อเปิดไฟล์ .zip และหา AppleMobileDeviceSupport.msi (หรือ AppleMobileDeviceSupport64.msi) จากนั้นลากไปไว้ที่ desktop แล้วดับเบิลคลิกไฟล์ที่หน้า desktop เพื่อติดตั้ง connection service
การปรับแต่ง settings
เมื่อดาวน์โหลดและติดตั้ง iTunes แล้ว คุณสามารถเปิด iTunes แล้วปรับแต่งบาง settings ในการ sync ข้อมูลใน iPhone
การจัดการเพลงด้วย MediaMonkey แทนการใช้ iTunes
การติดตั้ง MediaMonkey
MediaMonkey เป็นโปรแกรม music player สำหรับฟังและจัดการไฟล์เพลงที่คนนิยมใช้กันใน Windows ซึ่งสามารถใช้ sync เพลงกับ iPhone ได้ โดยปรับแต่ง settings นิดหน่อย แต่วิธีนี้ก็ยังต้องติดตั้งบางบริการของ iTunes อยู่ดี ถึงจะ sync ข้อมูลใน iPhone กับ MediaMonkey ได้ แต่ก็ไม่ต้องใช้ตัวโปรแกรม iTunes
การตั้งค่า iTunes เพื่อ Sync เพลง
ถ้าต้องการใช้ iTunes เพื่อจัดการรูป วิดีโอ และ backup ข้อมูล ต้องปิดการ sync ไฟล์เพลงซะก่อน จะได้ไม่เซฟทับข้อมูลตอนเชื่อมต่อ iPhone กับคอม
- คลิกเมนู “Edit” แล้วเลือก “Preferences” ถ้าไม่เจอเมนู “Edit” ให้กด Alt
- คลิก tab “Devices” แล้วติ๊ก “Prevent iPods, iPhones, and iPads from syncing automatically”
- คลิก tab “Store” แล้วเอาติ๊กออกจาก “Automatically download album artwork”
- เชื่อมต่อ iPhone แล้วเลือก iPhone จากในแถวปุ่มต่างๆ ทางด้านบนของหน้าต่าง iTunes ในหน้าต่างที่เปิดอยู่ ให้เลื่อนลงไปเอาติ๊กออกจาก “Automatically sync when this iPhone is connected”
- คลิก tab “Music” ในกรอบทางซ้าย แล้วเอาติ๊กออกจาก “Sync Music” ถ้ามี ทำซ้ำกับ tab “Podcasts” ถ้าจะใช้ MediaMonkey จัดการ podcast ด้วย
การ Sync เพลงกับ iPhone ใน MediaMonkey
หลังจากที่คุณได้เพิ่มเพลงและปรับแต่ง settings แล้ว ต่อไปคือขั้นตอนการ sync คอลเลคชั่นเพลงกับ iPhone ของคุณ
วิธีที่ 1: Sync เพลงแบบทันที
คลิกขวาที่เพลงเดียวหรือหลายเพลง แล้วเลือก “Send To” → “Your iPhone” เพลงที่เลือกไว้จะ sync กับ iPhone ทันที
วิธีที่ 2: Auto-Sync เพลง

คลิก tab “Auto-Sync” จากนั้นเลือกศิลปิน อัลบั้ม แนวเพลง และ playlist ที่จะ sync อัตโนมัติ
เลือกอุปกรณ์และคอลเลคชั่น
คลิกปุ่ม “Configure” เพื่อเลือกอุปกรณ์ที่ต้องการ sync และคอลเลคชั่นของเพลงที่ต้องการเพิ่มลงใน iPhone ได้ในหน้าต่างต่อไปนี้
ตั้งค่าต่างๆ
เลือกศิลปิน อัลบั้ม แนวเพลง และ playlist ที่จะ sync อัตโนมัติ แล้วคลิกปุ่ม “Apply” เพื่อเซฟค่าใหม่
เริ่มขั้นตอนการ sync
เมื่อเลือกและตั้งค่าต่างๆ เสร็จแล้ว ก็คลิกปุ่ม “Auto-Sync” เพื่อเริ่ม sync คอลเลคชั่นเพลงกับ iPhone ของคุณ
วิธีการ Sync ไฟล์เพลงด้วย Spotify Premium บนคอมและ iPhone
การสมัครใช้ Spotify Premium
เริ่มต้นด้วยการสมัครใช้ Spotify Premium เพื่อให้สามารถ sync ไฟล์ในเครื่องกับบัญชี Spotify ได้ โดยคลิกที่ นี่ เพื่อดูขั้นตอนการสมัครสมาชิกแบบ Premium โดยละเอียด
การติดตั้ง Spotify Player บนคอม
- ดาวน์โหลดและติดตั้ง Spotify Player ในคอม
- ต้องใช้ player นี้เพิ่มไฟล์จากเครื่อง
- ติดตั้งเสร็จให้ล็อกอิน Spotify
- คลิกเมนู “Spotify” หรือ “File” ใน Player แล้วเลือก “Preferences”
- เลื่อนลงไปที่หัวข้อ “Local Files”
- คลิก “Add a Source” เพื่อเลือกโฟลเดอร์ที่จะเพิ่มเข้า Spotify
- Spotify จะโหลด track เพลงทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์นั้น
การติดตั้งแอพ Spotify ใน iPhone
- ดาวน์โหลดแอพ Spotify ฟรีที่ App Store
- ติดตั้งเสร็จให้ล็อกอิน Spotify
การ Sync ไฟล์เพลงด้วย Spotify Premium
- คลิกเมนู “Devices” ใน Spotify Player ในคอม แล้วเลือก iPhone จากในรายชื่อ
- คลิก “Sync this device with Spotify” เพื่ออนุญาตอุปกรณ์
- เปิดแอพ Spotify ใน iPhone แล้วตรวจสอบว่าเชื่อมต่อเน็ตเดียวกับคอม
- แตะปุ่ม Menu (☰) แล้วเลือก “Your Music
ใช้อีเมล
ดาวน์โหลดวิดีโอที่มีเพลงลงคอม
ก่อนอื่นต้องดาวน์โหลดวิดีโอที่มีเพลงลงคอมก่อน โดยแนะนำให้เป็นไฟล์วิดีโอเพื่อให้เสียงเพลงเข้าไปอยู่ในไฟล์ด้วย
ส่งไฟล์ของเพลงนั้นเข้าอีเมลตัวเอง
เมื่อได้วิดีโอที่มีเพลงลงคอมแล้ว คุณสามารถส่งไฟล์ของเพลงนั้นเข้าอีเมลตัวเองได้ โดยต้องแนบไฟล์วิดีโอที่มีเพลงไปด้วย ในอีเมลเดียวกัน
ดาวน์โหลดวิดีโอลงเครื่อง
หลังจากส่งไฟล์ของเพลงไปยังอีเมลตัวเองแล้ว ให้เข้า inbox ใน iPhone แล้วดาวน์โหลดวิดีโอลงเครื่อง
เซฟลง camera roll
เมื่อดาวน์โหลดวิดีโอแล้ว คุณสามารถเซฟไฟล์เพลงลงใน camera roll ได้ โดยวิธีนี้จะเป็นการบันทึกไฟล์เพลงเป็นวิดีโอไฟล์เดียวกันกับวิดีโอที่คุณดาวน์โหลดมา ซึ่งจะมีเสียงเพลงอยู่ในไฟล์ด้วย
การเซฟเพลงด้วย WhatsApp
ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดแอป WhatsApp
ก่อนอื่นให้ดาวน์โหลดแอป WhatsApp ลงในมือถือของคุณ
ขั้นตอนที่ 2: เริ่มแชทกับตัวเอง
เริ่มต้นการแชทกับตัวเองในแอป WhatsApp ของคุณ
ขั้นตอนที่ 3: อนุญาตให้ WhatsApp backup ไฟล์ลง Camera Roll
อนุญาตให้ WhatsApp backup ไฟล์ลง Camera Roll ของ iPhone ของคุณ เพื่อที่จะสามารถเซฟเพลงได้
ขั้นตอนที่ 4: ดาวน์โหลดเพลง
ถ้ายังไม่มีไฟล์เพลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ ให้ดาวน์โหลดเพลงที่ต้องการเซฟลงใน iPhone ของคุณ
ขั้นตอนที่ 5: เปิด WhatsApp Web ในคอม
เปิด WhatsApp Web ในคอมพิวเตอร์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 6: ส่งเพลงให้ตัวเองเป็นไฟล์แนบ
ส่งไฟล์เพลงให้ตัวเองเป็นไฟล์แนบ ผ่านแอป WhatsApp Web บนคอมพิวเตอร์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 7: เปิด WhatsApp ใน iPhone และเซฟไฟล์
เปิดแอป WhatsApp ใน iPhone และแตะที่วิดีโอที่ส่งเข้ามา จากนั้นก็เลือกเซฟไฟล์
หมายเหตุ: วิธีนี้ดาวน์โหลดเพลงแล้วใช้ข้อมูลเป็น 2 เท่า เพราะงั้นต้องระวัง ถ้าจะเลือกใช
คุณกำลังดูโพสต์นี้ วิธีการ เซฟเพลงลง iPhone โดยไม่ต้องใช้ iTunes