การแปลงไฟล์วิดีโอเป็น MP3 ได้ง่ายนิดเดียวในปัจจุบัน เพราะมีทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และโปรแกรมต่างๆ ที่คุณสามารถเลือกใช้ได้อย่างมากมาย

แต่ละเว็บไซต์และโปรแกรมมีวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อคุณต้องเลือกใช้เว็บหรือโปรแกรมเพื่อแปลงวิดีโอเป็น MP3 อาจจะเป็นไปได้ว่าคุณจะรู้สึกยากลำบาก

อย่าเป็นห่วง! เราได้รวบรวมเว็บไซต์และโปรแกรมที่มีความสามารถในการแปลงไฟล์อย่างดีมาให้คุณเลือกใช้

คุณสามารถแปลงวิดีโอเป็น MP3 ได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นคลิปใน YouTube หรือแหล่งอื่นๆ บางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันยังรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ Android, iPhone, และ iPad เพื่อความสะดวกสบายของคุณ

ในบทความนี้เราจะแนะนำวิธีการแปลงวิดีโอเป็น MP3 ให้คุณเอง ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอแบบใด และในอุปกรณ์ใดก็ตาม

แปลงไฟล์วิดีโอเป็น MP3 ด้วย CloudConvert

คุณสามารถแปลงไฟล์วิดีโอเป็นรูปแบบ MP3 ได้อย่างง่ายดายผ่านเว็บไซต์CloudConvertซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือมากที่สุดในตอนนี้ ตามลิงก์ด้านบนหรือพิมพ์เว็บไซต์ในเบราว์เซอร์ของคุณเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์

วิธีการใช้ CloudConvert

เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแปลงไฟล์วิดีโอของคุณเป็น MP3 ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้:

1. เลือกไฟล์วิดีโอ

คลิกที่ปุ่ม “Select File” ที่อยู่กลางหน้าจอ ซึ่งเป็นปุ่มใหญ่ๆ สีแดง และจะเปิด File Explorer ในคอมพิวเตอร์ของคุณขึ้นมา ให้คุณเลือกไฟล์วิดีโอที่ต้องการแปลง หากไฟล์อยู่ในพื้นที่เก็บไฟล์อื่น ๆ เช่น Google Drive, Dropbox หรือ One Drive คุณสามารถใช้ลูกศรเล็กๆ ด้านขวาของปุ่มเพื่อดึงไฟล์มาจากที่เก็บได้

2. เลือกรูปแบบแปลง

หลังจากที่ไฟล์ถูกอัปโหลดขึ้นเว็บ CloudConvert จะตรวจจับประเภทของไฟล์วิดีโอที่คุณอัปโหลดโดยอัตโนมัติและแสดงให้เห็นที่ด้านบนของห น้าเว็บ โปรดตรวจสอบว่าไฟล์ถูกต้องก่อนที่คุณจะดำเนินการแปลง (เช่น MP4 เป็น MP3, MOV เป็น MP3 ฯลฯ) เพื่อเลือกไฟล์ปลายทางเป็น MP3 ให้คลิกที่ตัวเลือก “convert to” และเลือก MP3

3. เริ่มแปลงไฟล์

หากคุณต้องการแปลงไฟล์วิดีโอเป็น MP3 หลายไฟล์พร้อมกัน คุณสามารถคลิกที่ปุ่ม “Add more files” สีดำและนำเข้าไฟล์เพิ่มเติมได้ คุณสามารถตั้งค่าการแปลงสำหรับแต่ละไฟล์ให้เป็น MP3 และเมื่อคุณพร้อมแล้วให้คลิกที่ปุ่ม “Convert” สีแดง เว็บไซต์จะเริ่มกระบวนการแปลงไฟล์ของคุณ ควรจะให้เวลาสักครู่เพื่อรอให้เสร็จสมบูรณ์

4. ดาวน์โหลดไฟล์แปลง

เมื่อการแปลงไฟล์เสร็จสมบูรณ์ คุณสามารถคลิกที่ปุ่ม “Download” สีเขียวเพื่อดาวน์โหลดไฟล์ MP3 ที่แปลงแล้ว

ด้วย CloudConvert คุณสามารถแปลงไฟล์วิดีโอเป็นรูปแบบอื่นๆ อีกมากมายรวมถึงแปลงเป็นไฟล์วิดีโอ หากคุณต้องการแปลงเป็นไฟล์อื่นๆ คุณสามารถคลิกที่เมนู “Convert to…” และเลือกตัวเลือก “Audio” จากนั้นคุณจะพบตัวเลือก MP3 ที่คุณต้องการใช้ นอกจากนี้ CloudConvert ยังสามารถช่ วยคุณแปลงไฟล์วิดีโอเป็น GIF ด้วยตัวเลือก “Image” อีกด้วย

READ: วิธีการ บวกเศษส่วนที่มีตัวส่วนไม่เท่ากัน

ดังนั้น เพียงแค่ไม่กี่คลิก คุณสามารถแปลงไฟล์วิดีโอเป็น MP3 หรือรูปแบบอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายด้วย CloudConvert นี่คือเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบและมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในการแปลงไฟล์ของคุณ

วิธีการดาวน์โหลดไฟล์หลังจากเสร็จสิ้นการแปลงฟอร์แมต

หลังจากที่ไฟล์ของคุณเสร็จสมบูรณ์จากกระบวนการแปลงฟอร์แมต คุณจะพบว่าไฟล์ใหม่ได้แสดงผลบนหน้าจอ แต่ไฟล์นั้นยังคงเป็นไฟล์ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตอยู่เช่นเดียวกับเมื่อก่อน

ขั้นตอนที่ 1: คลิกปุ่ม Download เพื่อดาวน์โหลดไฟล์

เพื่อนำไฟล์ที่แปลงฟอร์แมตแล้วไปใช้งาน คุณต้องดาวน์โหลดไฟล์นั้นก่อน สำหรับการดาวน์โหลด คุณสามารถคลิกที่ปุ่ม Download ที่มีอยู่บนหน้าจอ เมื่อคลิกแล้วกระบวนการดาวน์โหลดจะเริ่มต้นทันที

ขั้นตอนที่ 2: พิจารณาปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานเว็บแปลงไฟล์

ควรทราบว่าเว็บแปลงไฟล์อย่าง CloudConvert บางครั้งอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใช้งาน ดังนั้น ควรใช้ความระมัดระวังเมื่อเลือกใช้เว็บแปลงไฟล์ใด ๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เมื่อคุณเสร็จสิ้นขั้นตอนดาวน์โหลด คุณสามารถใช้ไฟล์ที่แปลงฟอร์แมตเสร็จสมบูรณ์ในการทำงานต่ อไปได้

การแปลงไฟล์ด้วย VLC (ใช้คอม)

หากคุณต้องการแปลงไฟล์วิดีโอในคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นไฟล์ MP3 คุณสามารถใช้ VLC Media Player ซึ่งเป็นเครื่องเล่นไฟล์มีเดียแบบฟรีและเปิดตัวให้คนทั่วไปใช้งานได้

สามารถดาวน์โหลด VLC Media Player ได้จากลิงก์http://www.videolan.org

ขั้นตอนการแปลงไฟล์

เปิดเครื่องมือ VLC Media Player
เลือกเมนู “Media” และคลิกที่ “Convert / Save”
คลิกที่ปุ่ม “Add…” เพื่อเลือกไฟล์วิดีโอที่คุณต้องการแปลง
คลิกที่ปุ่ม “Convert / Save” เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแปลงไฟล์
เลือก “Audio – MP3” ในเมนู “Profile” ที่ขยายลงมา
คลิกที่ “Browse” เพื่อเลือกตำแหน่งที่คุณต้องการบันทึกไฟล์แปลงและตั้งชื่อไฟล์
คลิกที่ปุ่ม “Start” เพื่อเริ่มกระบวนการแปลงไฟล์
รอให้การแปลงไฟล์เสร็จสมบูรณ์ การแปลงไฟล์อาจใช้เวลานานขึ้นอยู่กับความยาวของวิดีโอ

วิธีแปลงวิดีโอใน YouTube เป็นไฟล์ MP3

หากคุณต้องการแปลงวิดีโอใน YouTube เป็นไฟล์ MP3 โดยใช้คอมพิวเตอร์ของคุณ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:

1. คัดลอก URL ของวิดีโอที่ต้องการแปลง

เริ่มต้นโดย คัดลอก URL ของวิดีโอใน YouTube จากแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ที่คุณใช้

2. เข้าสู่เว็บไซต์แปลง YouTube เป็น MP3

มีหลายเว็บไซต์ที่สามารถดาวน์โหลดวิดีโอจาก YouTube เป็น ไฟล์ MP3 ได้ ตัวอย่างเช่น GetMP3 ที่เว็บไซต์https://www.getmp3.pro

เว็บอื่นๆ ที่ใช้งานได้คล้ายกัน:

https://tomp3.cc
https://www.onlinevideoconverter.pro
https://yt2mp3.tech

ให้คุณวาง URL ของวิดีโอ YouTube ในช่องของเว็บดาวน์โหลด ที่มักจะเป็นช่องค้นหาขนาดใหญ่และเขียนว่า “URL” จากนั้นคลิกไอคอนแว่นขยายเพื่อค้นหาวิดีโอใน YouTube และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นวิดีโอที่ต้องการแปลงไฟล์และดาวน์โหลด

ขั้นตอนต่อไ ปอาจแตกต่างกันไปตามเว็บไซต์ที่ใช้งาน บางที่อาจต้องใช้ปลั๊กอิน Java และเลือก “MP3” settings

3. กำหนดคุณสมบัติไฟล์ MP3 และดาวน์โหลด

เว็บไซต์ GetMP3 ให้คุณกำหนดขนาดไฟล์ MP3 ที่ต้องการ โดยค่าเริ่มต้นจะเป็น 320 kbps ซึ่งเป็นขนาดไฟล์ที่ใหญ่สุดที่สามารถดาวน์โหลดได้ คุณสามารถเลือกไฟล์ที่มีขนาดเล็กกว่านี้ได้ตามต้องการ จากนั้นคลิกปุ่ม “Download” เพื่อเริ่มดาวน์โหลดไฟล์เสียงของวิดีโอนั้น เป็นไฟล์ MP3

ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาสั้น และบางเว็บอาจแปลงไฟล์เสียงเป็นไฟล์ MP4 เท่านั้น แล้วคุณจะต้องแปลงเป็นไฟล์ MP3 ทีหลัง หากคุณต้องการทราบขั้นตอนดังกล่าว คุณสามารถค้นหาวิธีการแปลงไฟล์ MP4 เป็น MP3 ได้

โปรดทราบว่าการใช้บริการแปลงไฟล์อย่าง GetMP3 อาจเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ดังนั้นให้ใช้งานด้วยความรับผิดชอบต่อลิขสิทธิ์ของผู้เผยแพร่เสมอ

แอป Conversion Tool: เครื่องมือแปลงไฟล์ที่ครบวงจร

แอป Conversion Tool เป็นเครื่องมือที่มีความสามารถมากกว่าการแปลงไฟล์เท่านั้น โดยแอปนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายอย่างที่คุณสามารถใช้ได้

Audio และ Video Editor ในตัว

แอป Conversion Tool มาพร้อมกับเครื่องมือตัดต่อไฟล์เสียงและวิดีโอในตัว คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน trim เพื่อตัดส่วนที่ไม่ต้องการของไฟล์เสียงเพื่อนำมาใช้เป็นเสียงเรียกเข้า หรือเสียงเตือน เสียงปลุก และอีกมากมาย

วิธีการใช้แอป Conversion Tool

เมื่อคุณดาวน์โหลดและติดตั้งแอป Conversion Tool ลงในเครื่องของคุณแล้ว คุณสามารถเปิดแอปขึ้นมาได้ทันที โลโก้ของแอปจะเป็นโน้ตดนตรีบนพื้นส้ม และฟิล์มหนังบนพื้นสีม่วง

อย่างไรก็ตาม คุณอาจต้องอนุญาตให้แอป Conversion Tool เข้าถึงไฟล์ในเครื่องของคุณก่อนที่จะสามารถเลือกไฟล์วิดีโอที่คุณต้องการแปลงได้ คุณสามารถทำการตั้งค่าในส่วนของ settings เพื่อใช้เวลาแปลงไฟล์ตามต้องการ

ฟีเจอร์การแปลงไฟล์ว ิดีโอ

ก่อนที่คุณจะแปลงไฟล์วิดีโอ แอป Conversion Tool ยังมีฟังก์ชัน trim ที่ช่วยให้คุณตัดส่วนที่ไม่ต้องการของวิดีโอได้ นอกจากนี้ แอปยังสามารถติดแท็กข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (เหมาะสำหรับวิดีโอเพลง) และเปลี่ยนรูปแบบไฟล์เสียงที่คุณต้องการได้ เช่น MP3, AAC, WMA, FLAC, WAV, และ AC3

เมื่อคุณเลือก MP3 เป็นรูปแบบไฟล์ เครื่องมือยังมีตัวเลือกเพิ่มเติมที่ช่วยให้คุณปรับการบีตเรตได้ คุณสามารถเลือก 128kb/s หรือปรับขนาดไฟล์ให้มีขนาดใหญ่หรือเล็กตามที่คุณต้องการ

แอป Conversion Tool ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยให้คุณปรับระดับเสียงและคุณภาพของไฟล์ MP3 ก่อนที่คุณจะสร้างไฟล์ output หรือไฟล์ที่ได้

READ: วิธีการ รักษารอยตัวเรือดกัด

แปลงไฟล์ด้วย Media Converter (ใช้ iPhone/iPad)

หากคุณต้องการแปลงไฟล์วิดีโอให้กลายเป็นไฟล์เสียง MP3 บน iPhone หรือ iPad ของคุณ คุณสามารถใช้แอป Media Converter – video to mp3 ซึ่งสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้จาก Apple App Store

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป Media Converter

เปิด App Store บน iPhone หรือ iPad ของคุณ แล้วค้นหา ” Media Converter – video to mp3″ ในช่องค้นหา ติดตั้งแอปเมื่อค้นพบ

ขั้นตอนที่ 2: เปิดแอป Media Converter และเลือกไฟล์วิดีโอ

เมื่อติดตั้งแอป Media Converter เรียบร้อยแล้ว เปิดแอปขึ้นมา โดยคุณจะพบไอคอนแอปที่เป็นสี่เหลี่ยมสีฟ้า และมีลูกศรวน 2 อันตรงกลาง ให้คุณเลือกไฟล์วิดีโอที่คุณต้องการแปลงได้ที่หน้า home ของแอป Media Converter

ขั้นตอนที่ 3: เลือกและแปลงไฟล์เสียง

ในเมนูด้านล่างของหน้าจอ คุณจะพบแท็บ “Files” ทางซ้ายสุด ให้คลิกที่แท็บนี้และเลือกไฟล์ที่คุณต้องการแปลง หาก แอปไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ในเครื่องของคุณได้ คุณจะต้องอนุญาตสิทธิ์ให้แอปเข้าถึงไฟล์ก่อน หากไม่พบไฟล์ที่ต้องการ คุณสามารถ import ไฟล์เองได้โดยคลิกเครื่องหมายบวกที่มุมขวาบนของหน้าจอ แล้วตั้งค่า “Conversion Type” เป็น “Extract Audio”

คำแนะนำ: แก้ไขการตั้งค่า

ในส่วนของการแปลงไฟล์เสียง MP3 ค่า default ของ Media Converter คือ MP3 อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเช็คและปรับแต่ง volume หรือความยาวของไฟล์เสียงได้ก่อนที่จะเริ่มต้นการแปลง โดยคุณสามารถตั้งค่าเหล่านี้ได้ในส่วน “Settings” ของแอป Media Converter

ขั้นตอนที่ 4: เริ่มต้นการแปลง

เมื่อคุณได้ทำการตั้งค่าและเลือกไฟล์ที่ต้องการแปลงแล้ว คลิกที่ “Start Conversion” เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแปลงไฟล์ หากไฟล์ของคุณไม่ใหญ่เป็นพิเศษ กระบวนการแปลงจะเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว

ขั้นตอนที่ 5: บันทึกไฟล์เสียง

เมื่อกระบวนการแปลงไฟล์เสียงสำเร็จ ไฟล์เสียงที่คุณได้จะถูกเซฟลงในอุปกรณ์ของคุณอัตโนมัติ คุณสามารถค้นหาไฟล์เสียงในหัวข้อ “Files” ของแอป Media Converter ได้ โดยไฟล์วิดีโอต้นฉบับ ยังคงอยู่ในเครื่องเหมือนเดิม

วิธีแปลงวิดีโอใน YouTube เป็นไฟล์ MP3 ด้วยเว็บ GetMP3

หากคุณต้องการแปลงวิดีโอใน YouTube เป็นไฟล์ MP3 บนอุปกรณ์ Android โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเสริม สามารถทำได้โดยการก๊อปปี้ URL ของวิดีโอที่ต้องการแปลงและดาวน์โหลด ดังนี้:

เปิด YouTube ในแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ Android ของคุณ
คลิกที่วิดีโอที่ต้องการแปลง
คลิกที่ปุ่ม Share
เลือก “Copy link” หรือ “Copy URL” จากเมนูที่แสดงขึ้น
เปิดเว็บเบราว์เซอร์และไปที่เว็บ GetMP3 (https://getmp3.pro/)
ในช่องที่เขียนว่า “URL” ใหญ่ๆ วาง URL ของวิดีโอ YouTube ที่คุณคัดลอกไว้
คลิกไอคอนแว่นขยายเพื่อค้นหาวิดีโอใน YouTube เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเลือกวิดีโอที่ต้องการแปลง
เลือก “MP3” ในตัวเลือกการตั้งค่า
คุณสามารถกำหนดขนาดไฟล์ MP3 ที่ต้องการได้ โดยค่าเริ่มต้นคือ 320 kbps (คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด)
คลิกปุ่ม “Download” ที่เป็นปุ่มสีดำกรอบแดง เพื่อเริ่มดาวน์โหลดไ ฟล์ MP3

วิธีการแปลงวิดีโอใน YouTube เป็นไฟล์ MP3 ด้วยเว็บ GetMP3 มีขั้นตอนง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น และคุณยังสามารถกำหนดคุณภาพเสียงของไฟล์ MP3 ที่ต้องการได้อีกด้วย

เว็บแปลงวิดีโออื่นๆ ที่คุณสามารถใช้ได้

นอกเหนือจาก GetMP3 ยังมีเว็บแปลงวิดีโอ YouTube เป็นไฟล์ MP3 อื่นๆ ที่คุณสามารถใช้งานได้ เช่นClipConverterเป็นต้น

เมื่อใช้บริการแปลงวิดีโอ YouTube เป็นไฟล์ MP3 ผ่านเว็บไซต์ GetMP3 หรือเว็บไซต์อื่นๆ ควรระมัดระวังเรื่องลิขสิทธิ์ และให้ใช้เฉพาะไฟล์ที่คุณมีสิทธิ์ในการแปลงและใช้งาน

วิธีการแปลงวิดีโอใน YouTube โดยใช้ iPhone/iPad

หากคุณต้องการแปลงวิดีโอใน YouTube เพื่อใช้งานบน iPhone หรือ iPad ของคุณ คุณสามารถทำได้โดยการติดตั้งแอป Documents จาก Readdle ที่ Apple App Store

ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้งแอป Documents

ในอุปกรณ์ iOS ของคุณให้คุณไปที่ Apple App Store แล้วค้นหาแอป Documents จาก Readdle และทำการติดตั้งแอปนี้

READ: วิธีการ เดินทางพร้อมน้องแมว

ขั้นตอนที่ 2: เปิดแอป Documents

หลังจากติดตั้งแอป Documents เรียบร้อยแล้วให้คุณเปิดแอปขึ้นมา

การตั้งค่าแอป Documents

ครั้งแรกที่คุณเปิดแอป Documents คุณจะพบหน้าต่างเพื่อตั้งค่า preferences พื้นฐาน คุณสามารถข้ามหน้านี้ไปได้โดยไม่ต้องทำอะไร เมื่อคุณเจอหน้า home ของ Documents Readdle คุณสามารถปฏิเสธการใช้งานแบบเสียเงินได้โดยการแตะที่ปุ่ม “เพื่อปฏิเสธ”

ขั้นตอนที่ 3: เข้าเว็บแปลงวิดีโอ YouTube

ในหน้า home ของแอป Documents คุณจะเห็นเมนูด้านล่างที่มีตัวเลือกต่างๆ ให้คุณเลือก “Browser” ที่อยู่ด้านขวาสุด เพื่อเข้าสู่เบราว์เซอร์ของแอป Documents ที่คุณสามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้

เข้าเว็บแปลงวิดีโอ YouTube

เมื่อคุณอยู่ในเบราว์เซอร์ของแอป Documents คุณสามารถเข้าสู่เว็บไซต์ที่ใช้ในการแปลงวิดีโอ YouTube เป็นไฟล์ MP3 ได้ บางเว็บไซต์ที่นิยมใช้ก็เช่น https://getmp3.pro และ https://clipconverter.cc

วิธีการใช้เว็บแปลงวิดีโอ YouTube

ในบทความนี้จะแนะนำวิธีการใช้งานเว็บแปลงวิดีโอ YouTube ที่ง่ายที่สุด โดยให้คุณทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 4: คัดลอก URL ของวิดีโอ YouTube

ในแอป YouTube ให้คุณเปิดวิดีโอที่คุณต้องการแปลง แล้วแตะที่ปุ่ม “Share” และเลือก “Copy link” เพื่อ คัดลอก URL ของวิดีโอ นั้น

ขั้นตอนที่ 5: วาง URL ในเว็บแปลงวิดีโอ

เมื่อคุณคัดลอก URL ของวิดีโอ YouTube ให้คุณกลับไปที่แอป Documents แล้ว วาง URL นั้นในเว็บแปลงวิดีโอ

วิธีการใช้งานเว็บแปลงวิดีโอ YouTube

บางเว็บแปลงวิดีโอ YouTube จะมีช่องค้นหาใหญ่ๆ สำหรับให้คุณวาง URL ของวิดีโอ ในกรณีของเว็บ GetMP3 หลังจากที่คุณวาง URL แล้ว เว็บจะดึงการตั้งค่าเพิ่มเติมขึ้นมา และคุณสามารถตั้งค่าไฟล์ตามต้องการ จากนั้นคุณสามารถคลิกที่ “Download” เพื่อดาวน์โหลดไฟ ล์

คุณสามารถใช้ค่าตั้งต้น (default settings) ได้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเพิ่มเติม แต่หากคุณต้องการลดคุณภาพของไฟล์ คุณสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ อย่าลืมเลือกไฟล์แบบ MP3 ไม่ใช่ MP4 ก่อนคลิกที่ “Download” เพื่อเริ่มดาวน์โหลดไฟล์ ในท้ายที่สุดคุณจะต้องเลือกตำแหน่งที่ต้องการเซฟไฟล์

การตั้งค่าตำแหน่งเซฟไฟล์ในแอป Document บน iPhone

ปกติตำแหน่งเซฟไฟล์ตามค่า default ของแอป Document คือโฟลเดอร์ใหม่ชื่อ Downloads อยู่ในโฟลเดอร์ Documents by Readdle ของ iPhone แต่แอปจะถามก่อนว่าอยากเซฟไฟล์ไว้ที่ไหน ถ้าโอเคแล้วก็แตะ Done ไม่ว่าจะเซฟไฟล์ไว้ที่ไหน ก็จะหาและเปิดไฟล์ได้ด้วยแอป Files ใน iOS แตะลูกศรด้านล่างของแอป Document

การค้นหาไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา

ในเมนูของแอป Document ทางซ้ายของตัวเลือกเบราว์เซอร์จะมีไอคอนลูกศรชี้ลง ให้แตะเพื่อค้นหาไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา อาจจะต้องรอสักพักกว่าไฟล์จะดาวน์โหลดเสร็จ ถ้าแถบความคืบหน้าไม่ขยับก็อย่าเพิ่งตกใจ พอไฟล์ดาวน์โหลดเสร็จ แถบนี้จะหายไปเอง